รีเซต

"ธนาคารโลก" เตือนการค้าโลกใกล้ชะงัก หวั่นภาษีลุกลาม หั่นเศรษฐกิจ ปี 68 เหลือ 2.3%

"ธนาคารโลก" เตือนการค้าโลกใกล้ชะงัก หวั่นภาษีลุกลาม หั่นเศรษฐกิจ ปี 68 เหลือ 2.3%
TNN ช่อง16
11 มิถุนายน 2568 ( 11:32 )
11

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 ลง 0.4% เหลือเพียง 2.3% โดยเตือนว่าอัตราภาษีที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น กำลังกลายเป็นแรงต้านสำคัญต่อเศรษฐกิจทั่วโลก


ธนาคารโลกได้ออกรายงาน "Global Economic Prospects" ซึ่งจัดทำปีละ 2 ครั้ง ได้ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจของเกือบ 70% ของประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐ จีน ยุโรป และอีก 6 ภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ เทียบกับการคาดการณ์เมื่อ 6 เดือนก่อน ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะเข้ารับตำแหน่ง


ทรัมป์ได้เขย่าระบบการค้าทั่วโลกด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นระยะ ๆ ส่งผลให้อัตราภาษีเฉลี่ยของสหรัฐพุ่งจากต่ำกว่า 3% ไปอยู่ในระดับเลขสองหลัก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบร้อยปี และนำไปสู่การตอบโต้จากจีนและประเทศอื่น ๆ


แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐจะยืนยันว่า ผลลบจากนโยบายการค้าจะถูกชดเชยด้วยการลงทุนที่พุ่งสูงและมาตรการลดภาษีชุดใหม่ที่กำลังพิจารณาอยู่ แต่ธนาคารโลกเตือนว่าการเติบโตในปีนี้จะอ่อนแอที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่วงที่ไม่เกิดภาวะถดถอย นับตั้งแต่วิกฤตปี 2551 โดยคาดว่าการเติบโตเฉลี่ยทั่วโลกในช่วงปี 2563–2572 จะอยู่ที่เพียง 2.5% ต่อปี ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

รายงานคาดว่าการค้าโลกจะขยายตัว 1.8% ในปี 2568 ลดลงจาก 3.4% ในปี 2567 และน้อยกว่า 1 ใน 3 ของอัตราเฉลี่ย 5.9% ที่เคยเกิดขึ้นในยุค 2543 โดยประมาณการนี้ใช้ฐานจากภาษีที่มีผลบังคับ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม และยังไม่รวมภาษีที่ทรัมป์ประกาศเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งถูกเลื่อนการใช้ไปจนถึง 9 กรกฎาคม เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจา


ธนาคารโลก ยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อโลกจะอยู่ที่ 2.9% ในปี 2568 ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 เนื่องจากการขึ้นภาษีและตลาดแรงงานที่ตึงตัว โดยเตือนว่า หากสหรัฐเพิ่มภาษีขึ้นอีก 10% และประเทศอื่นตอบโต้ในระดับเท่ากัน อาจทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2568 ลดลงอีก 0.5%


พร้อมกันนี้รายงานยังระบุว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว การค้าโลกอาจหยุดชะงักในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ พร้อมกับความเชื่อมั่นที่พังทลาย ความไม่แน่นอนที่พุ่งสูง และตลาดการเงินที่ปั่นป่วน อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกยังประเมินว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกมีไม่ถึง 10%


อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯและจีน เข้าสู่โต๊ะเจรจาในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งด้านการค้า โดยเฉพาะข้อพิพาทเกี่ยวกับแร่หายากซึ่งอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่ความเห็นจาก "อายฮาน โกเซ" รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “ความไม่แน่นอนเปรียบเสมือนหมอกบนรันเวย์ มันชะลอการลงทุนและบดบังอนาคต”



นายโกเซ กล่าวว่า แม้สถานการณ์ยังมืดมน แต่มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าการเจรจาทางการค้าเริ่มฟื้นตัว และห่วงโซ่อุปทานกำลังปรับตัวกับแผนที่การค้าใหม่ของโลก โดยไม่ถึงขั้นล่มสลาย พร้อมคาดว่าอัตราการเติบโตของการค้าโลกอาจดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.4% ในปี 2569 และการพัฒนา AI อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะยาว


ธนาคารโลก ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนมกราคม 2568  โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเพียง 1.2% ในปี 2568 ลดลง 0.5% จากคาดการณ์เดิม โดยสหรัฐฯ ถูกหั่นคาดการณ์ลงถึง 0.9% เหลือ 1.4% และแนวโน้มปี 2569 ถูกปรับลงเหลือ 1.6% ด้วยเหตุผลจากกำแพงภาษี ความไม่แน่นอนระดับสูง และความผันผวนของตลาด


ด้านทำเนียบขาวตอบโต้ข้อมูลดังกล่าวทันที โดยโฆษกของทำเนียบ "คุช เดไซ" กล่าวว่า “คำพยากรณ์ของธนาคารโลกไม่สอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจจริง ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าการลงทุนในอุปกรณ์ธุรกิจแท้จริงพุ่งถึง 25% ในไตรมาสแรกของปี 2568 รายได้ส่วนบุคคลที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนเมษายน และตัวเลขการจ้างงานกับเงินเฟ้อดีเกินคาดติดต่อกัน 3 เดือนแล้ว”

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง