ผู้ส่งออกรอขายดอลลาร์ดันเงินบาทแข็ง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 30.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 30.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยแนวโน้มเงินบาทก็มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบต่อ ซึ่งสัปดาห์นี้ที่ระดับ 29.90-30.15 บาทตอดอลลาร์สหรัฐส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 29.95-30.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอาจจะไม่อ่อนค่าไปมาก ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ เนื่องจากผู้ส่งออกต่างรอขายเงินดอลลาร์ที่ระดับ 30.10-30.15บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นหากตลาดไม่ได้มีแนวโน้มปิดรับความเสี่ยงที่ีรุนแรง จนเกิดแรงเทขายสินทรัพย์ไทยและมีฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออกสุทธิจำนวนมาก เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหรือ บวก-ลบ 15 สตางค์ จนกว่าจะมีปัจจัยที่ทำให้ทิศทางของเงินดอลลาร์หรือฟันด์โฟลว์ชัดเจน
สัปดาห์นี้ตลาดจะติดตามความคืบหน้าของการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่สหรัฐฯ รวมถึงรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนโดยในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้
ในฝั่งสหรัฐฯ ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทยอยฟื้นตัว กอปรกับราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยยังคงต่ำกว่าปีก่อนหน้าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปไม่ได้ปรับตัวเร่งขึ้นมากนัก โดยในเดือนมกราคม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ระดับ 1.5% ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) เริ่มลดลงต่อเนื่อง และล่าสุดอาจจะลดลงมาอยู่ที่ราว 7.5แสนราย
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U of Michigan Consumer Sentiment) ในเดือนกุมภาพันธ์ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น แตะระดับ 80.7จุด จากความหวังว่ารัฐบาลใหม่สหรัฐฯจะสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ได้ภายในไตรมาสแรก และความหวังว่าวัคซีนจะแจกจ่ายได้เร็วขึ้น
ด้านฝั่งยุโรป การระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 จะกดดันให้เศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาสที่ 4 หดตัวลงกว่า 8% จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในส่วนภาคการบริการที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการ Lockdown อย่างไรก็ดี แม้ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะเผชิญปัญหาการระบาดระลอกใหม่อยู่ แต่ในมุมมองของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสำรวจโดย Sentix จะพบว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.9จุด จาก 1.3จุด ในเดือนก่อนหน้า (ดัชนีมากกว่า 0 หมายถึงมุมมองที่เป็นบวก)
สุดท้ายในฝั่งเอเชียความต้องการสินค้าเทคโนโลยีที่เพิ่มสูงขึ้นจะช่วยหนุนให้สินค้าในกลุ่ม Semiconductors, Chips และ แผง IC มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไต้หวัน เนื่องจากเป็นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มดังกล่าวที่สำคัญ สะท้อนผ่านยอดการส่งออกในเดือน มกราคมที่จะโตถึง 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เงินดอลลาร์มีแนวโน้มผันผวนต่อ ตามความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น หากตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ หรือการแจกจ่ายวัคซีนที่เร็วกว่าคาด อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเผชิญแรงคัดค้านหนัก หรือ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่ลงกว่าคาด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE