น้ำท่วมอยุธยาขยายวงกว้าง 7 อำเภอ
ผลพวงจากการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องของเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะชุมชนริมคลอง ริมแม่น้ำ สายต่างๆ ถนนในชุมชนริมแม่น้ำเริ่มถูกตัดขาด โดยล่าสุดได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งแล้ว 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอบางปะหัน รวม 71 ตำบล 339 หมู่บ้าน 10,028 ครัวเรือน สถานที่ราชการ 12 แห่ง วัด 6 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง เส้นทางคมนาคมถนนภายในหมู่บ้าน 2 สาย
ทีมข่าว TNNช่อง16 ลงพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอำเภอแรกๆที่ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน โดยในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลหัวเวียง ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งท่วมถนนในชุมชน บ้านเรือนริมแม่น้ำน้อย ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกจากบ้าน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องเริ่มนำมาจอดบนถนน
ชาวบ้านบอกว่า น้ำท่วมมานานนับสัปดาห์แล้ว น้ำขึ้นมาเรื่อยๆ ขึ้นทุกวันเก็บของขึ้นไปแล้วรอบหนึ่ง และเตรียมจะเก็บอีกรอบ ท่วมทุกปี ท่วมจนชิน พอหน้าน้ำมาก็ท่วมอย่างนี้ตลอด เมื่อปี 65 ระดับน้ำถึงคอ อยากให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไข ผันน้ำเข้าทุ่งให้มากกว่านี้ น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านได้
ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคคกลาง ยังต้องจับตาใกล้ชิด ปริมาณน้ำเหนือไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มทรงตัวและลดลง ล่าสุดวัดได้ 1,507 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ทางเขื่อนยังตรึงอัตราการระบายน้ำไว้ไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลบ่าลงมาสมทบ และที่กำลังจะเพิ่มขึ้นจากร่องมรสุมระหว่างวันที่ 5-8 กันยายน รวมทั้งเพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
ซึ่งจากการระบายน้ำในเกณฑ์นี้ของเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล ในพื้นที่ตำบลบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะยกตัวขึ้นอีก 5-10 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า บ้านเรือนในพื้นที่ดังกล่าวจึงควรยกของขึ้นที่สูง เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป