สมช.ย้ำยึดแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาเขตแดนผ่านกลไก JBC

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกแถลงการณ์ชี้แจงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าฝ่ายไทยจะดำรงการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมไทย–กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าวเช่นเดียวกัน

สมช.ระบุว่า แถลงการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3/2568 เป็นผลจากการพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบที่สภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ โดยมีเป้าหมายหลักในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกความร่วมมือทวิภาคี

สมช.ย้ำว่าประเทศไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการคุ้มครองชีวิต ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน พร้อมยึดมั่นหลักสันติภาพและกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากเกิดการละเมิดอธิปไตยหรือการรุกรานอีกครั้ง ไทยมีสิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเองตามหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ

ในด้านการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ สมช.ระบุว่า ได้บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง พร้อมแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

สำหรับประเด็นด้านมนุษยธรรม สมช.ชี้ว่า ไทยยึดมั่นหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด การปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชา 18 คน เป็นไปตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสะท้อนความมุ่งมั่นของไทยในการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมคาดหวังให้กัมพูชาดำเนินการในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะการคุ้มครองประชาชนและการเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่เสี่ยง

นอกจากนี้ สมช.กล่าวถึงความกังวลต่อปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไทยมองว่าเป็นภัยคุกคามระดับภูมิภาค และต้องการให้กัมพูชาร่วมมืออย่างจริงจังมากขึ้น

ในประเด็นเขตแดน สมช.ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาจะดำเนินการผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Commission (JBC) โดยไทยยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศและแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 เป็นหลัก ทั้งนี้ การประชุม JBC ในอนาคตต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของห้วงเวลา เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันอยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ

สมช.สรุปว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงดำรงความพร้อมในการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ