รีเซต

เอกชนแนะรัฐจับคู่ทำธุรกิจระหว่างประเทศ เน้นที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว เชื่อศก.ฟื้นได้ก่อน

เอกชนแนะรัฐจับคู่ทำธุรกิจระหว่างประเทศ เน้นที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว เชื่อศก.ฟื้นได้ก่อน
มติชน
2 มีนาคม 2564 ( 05:30 )
33
เอกชนแนะรัฐจับคู่ทำธุรกิจระหว่างประเทศ เน้นที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว เชื่อศก.ฟื้นได้ก่อน

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า หลังจากมีการเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย และในทั่วโลกได้เริ่มต้นฉีดแล้วเช่นกัน ทำให้ภาพเศรษฐกิจในขณะนี้จึงต้องประเมินใหม่ แม้ในประเทศวัคซีนจะมาช้า แต่ก็ไม่ได้มีนัยยะมากนัก เนื่องจากแม้จะมาเร็ว ก็ไม่ได้หมายความว่าคนทั่วไปจะเต็มใจฉีดพร้อมกันหมด เพราะก็อยากรอติดตามผลการฉีดวัคซีนของคนกลุ่มแรกๆ ก่อน ว่าจะส่งผลในแง่ใดบ้าง โดยหากประเมินในรายประเทศที่ฉีดวัคซีนเร็ว เห็นผลเร็ว และสามารถครอบคลุใประชากรได้มาก เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นจะฟื้นกลับมาก่อน ทำให้โอกาสในการทำการค้าร่วมกันมีมากขึ้น โดยนโยบายสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือ การจับคู่ประเทศ หรือการทำบับเบิ้ลระหว่างต่างประเทศ โดยต้องหาทางทำให้ความปลอดภัยยังคงมีอยู่ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจได้ด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่า มีธุรกิจหลายอย่างที่จำเป็นต้องมีการเดินทางไปมาหาสู่กัน เพราะไม่สามารถออนไลน์ได้เพียงอย่างเดียว อาทิ การลงทุนระหว่างประเทศ ที่ต้องมีการเห็นทำเลที่ดินในการลงทุนจริง หรือการดูสภาพแวดล้อมของพื้นที่เหล่านั้น ทำให้ต้องมีขั้นตอนออกมาว่า จะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยและขยับให้เกิดการดำเนินธุรกิจไปด้วยได้

“ตลาดในประเทศที่เศรษฐกิจกลับมาเร็ว จะมักำลังซื้ ฟื้นกลับมาได้เร็วและมาก่อนเพื่อน ทำให้ต้องมุ่งประเด็นไปที่ประเทศเหล่านั้น ว่าการค้าร่วมกับประเทศเหล่านั้น จะสามารถทำเพิ่มได้หรือรวมเร็วมากขึ้นอย่างไร โดยรัฐบาลจะต้องหาทางดำเนินการในช่องทางที่สามารถทำได้ อาทิ กระบวนการข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ติดค้างอยู่ จะสามารถเร่งดำเนินการต่อได้อย่างไร โดยมองว่าเราจะต้องอาศัยจังหวะนี้ ที่มีบางประเทศปลอดภัยแน่นอนแล้ว ในการทำงานเชิงรุกก่อน ทั้งการดึงดูดการลงทุนเพิ่มขึ้น อาทิ จัดทริปให้นักลงทุนต่างชาติบินตรงเข้ามายังแหล่งลงทุน เพื่อให้เห็นความพร้อมของประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ต้องมีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว” นายวิศิษฐ์ กล่าว

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับภาคการส่งออกต่อจากนี้ ประเมินว่าต้องพิจารณาในเรื่องแวลูเชนและซัพพลายเชนให้ครบถ้วน เพราะยังมีบางสินค้าที่ผู้ผลิตสินส่วนบางชนิดยังไม่กลับมาผลิตตามปกติ ทำให้ต้องเร่งดูว่าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนการผลิตมีแบบใดขาด และสามารถนำเข้ามาจากประเทศใดได้ก่อนบ้าง เพื่อไม่ให้การผลิตติดขัดหลังจากสามารถกลับมาผลิตสินค้าได้เต็มกำลังอีกครั้ง โดยรวมถึงในช่วงก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีการผ่อนปรนให้ผู้ส่งออกสามารถส่งออกและทำการค้าระหว่างประเทศได้สะดวกขึ้น ลดต้นทุนมากขึ้น ขณะนี้ก็ยังอยากให้ช่วยอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ภาครัฐสามารถช่วยเหลือได้ เพื่อให้การแข่งขันการค้าระหว่างประเทศมีศักยภาพมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยลดต่ำลง เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่กดดันอยู่ อาทิ ค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้ ก็ต้องปล่อยให้แข็งต่อไป จึงมองว่าหากมีด้านใดที่รัฐบาลสามารถช่วยได้ ก็ต้องนำมาสนับสนุนทดแทนสิ่งที่รัฐไม่สามารถทำได้

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่มีความร้อนแรงในขณะนี้ เบื้องต้นมองว่ายังไม่กระเทือนเรื่องการส่งออกหรือการต่างประเทศ เพราะในช่วงที่ผ่านมา ก็เห็นว่ามีการชุมนุมทางการเมืองของหลายประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากมีวิกฤตโควิด-19 และผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าในภาพที่เกิดขึ้นขณะนี้ การชุมนุมทางการเมืองของไทยน่าจะยังไม่ได้เป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากต่างประเทศมากนัก เนื่องจากประเทศที่จะมาวิจารณ์ประเทศไทยก็มีการเกิดชุมนุมทางการเมืองเช่นกัน ทำให้เรื่องการชุมนุมจะเป็นปัญหาภายในแทน เนื่องจากแต่ละประเทศจะพยายามก้าวก่ายประเทศอื่นน้อยที่สุด เพราะในประเทศตัวเองก็มีปัญหาเหมือนกัน ส่วนผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่างชาติ มองว่าขณะนี้การลงทุนหรือการกลับมาท่องเที่ยวของต่างชาติยังไม่มีมากนัก จึงคาดหวังว่าการชุมนุมจะสามารถหาทางออกและยุติได้ก่อนที่จะเกิดการเดินทางกลับมาอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง