ซิดนีย์ล็อกดาวน์เข้มขึ้นอีก ให้ปิดภาคธุรกิจเพิ่ม-ห้ามปชช.ออกนอกพื้นที่ เหตุยังคุมโควิดไม่อยู่

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทางการออสเตรเลียสั่งปิดภาคธุรกิจเพิ่มมากขึ้นและบังคับใช้มาตรการคุมเข้มที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังจากมาตรการล็อกดาวน์นครซิดนีย์ เมืองใหญ่สุดของออสเตรเลียและพื้นที่โดยรอบที่ทางการบังคับใช้มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ยังควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ไม่อยู่

นางแกลดีส์ เบเรจิเคลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงกับสื่อมวลชนในนครซิดนีย์ว่า ธุรกิจค้าปลีกใดๆที่ไม่สำคัญในนครซิดนีย์และพื้นที่โดยรอบจะต้องปิดทำการ และผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดหนักจะอยู่ภายใต้มาตรการให้อยู่บ้านที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์(17 ก.ค.)เป็นต้นไป

นางเบเรจิเคลียนกล่าวด้วยว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาอีก 1 รายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในขณะที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาในหนึ่งวันพุ่งสูงกว่า 100 รายแล้ว ขณะเดียวกันจำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชนที่เพิ่มขึ้นยังคุมได้ยาก

ภายใต้มาตรการคุมเข้มที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนี้ ได้มีการสั่งห้ามประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ ที่มีการระบาดหนัก ออกจากพื้นที่เว้นแต่จะทำงานอยู่ในหน่วยบริการฉุกเฉินหรือสาธารณสุข และยังห้ามงานก่อสร้างทั้งหมดในนครซิดนีย์ ที่มีประชากรกว่า 6 ล้านคน ซึ่งตกอยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่บ้านเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว

ที่นครเมลเบิร์น ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย ประชาชนอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นวันที่ 2 จากการถูกล็อกดาวน์มาเป็นรอบที่ 5 นับจากออสเตรเลียเริ่มเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19