อย่าหลงเชื่อนายหน้าเถื่อน หลอกทำงานเกาหลีใต้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้รับการประสานจากฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารรัฐเกาหลีว่ามีบริษัทเอกชนมีพฤติการณ์โฆษณาชวนเชื่อ หลอกคนหางานว่าสามารถพาไปทำงานเกาหลีได้ โดยอ้างว่าได้ทำบันทึกความเข้าใจ MOU กับหน่วยงานภาคเอกชนของสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้สามารถจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังแอบอ้างถึงฝ่ายแรงงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ในการรับรองเอกสารสัญญาจ้างเพื่อนำมาใช้ประกอบในการขออนุญาต เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญอย่างมาก ย้ำเตือนให้กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคนหางาน และตรวจสอบดำเนินคดีผู้มีพฤติการณ์หลอกลวงคนหางานอย่างถึงที่สุด
“ขอย้ำเตือนว่าการจัดส่งคนหางานไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลีเป็นการดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจ(MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยโดยกระทรวงแรงงาน กับกระทรวงแรงงานและการจ้างงานสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งมอบหมายให้กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดหาและจัดส่งคนหางานไปทำงานเท่านั้น หากภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งจะต้องได้ใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศเสียก่อน ดังนั้นขอให้คนหางานตรวจสอบบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตฯ กับกรมการจัดหางานก่อนหลงเชื่อ”
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า รมว.แรงงาน ย้ำกรมการจัดหางานให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าวในทุกช่องทาง และตรวจสอบสื่อโซเซียลมีเดียต่าง ๆ เมื่อมีการโพสต์ข้อความชักชวนคนหางาน ไปทำงานในต่างประเทศที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
โดยปีงบประมาณ 2565 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 113 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 164 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 13,029,610 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2565) โดยกรมการจัดหางานขอเตือนว่าผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาท - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th/ipd หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
ที่มา กระทรวงแรงงาน
ภาพประกอบ กระทรวงแรงงาน