'บิ๊กมรภ.'จวกอว.แบ่งกลุ่มมหา'ลัยซ้ำซ้อน โอดการเมืองแทรกขาดอิสระ

จวก’อว.’แบ่งกลุ่มมหา’ลัยซ้ำซ้อน ‘บิ๊กมรภ.’โอดการเมืองแทรกขาดอิสระ ชี้นโยบายนามธรรมจี้ ‘เอนก’ ปรับปรุง

นายอดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มร.นม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ มีทั้งปัญหาเรื่องการเมือง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 และจำนวนเด็กเข้าเรียนลดลง ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปรับการทำงานให้สอดคล้องกับทุกด้าน เรื่องสำคัญคือ การปรับวิธีคิดของคนในองค์กร เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและเด็ก ทั้งนี้ผลกระทบและเห็นได้ชัด คือในส่วนของโครงสร้าง โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรัฐ ที่จะเป็นเป้าหมายหลักทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่มหาวิทยาลัยบางแห่งเองก็ขาดธรรมาภิบาล ทำให้การเมืองเข้ามาแทรก ขาดความเป็นอิสระ ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยต้องทำโครงการต่าง ๆ รวมถึงทำงานเอกสารจำนวนมาก ไม่น้อยกว่าโรงเรียนมัธยม

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการมหาวิทยาลัยมีการแบ่งกลุ่ม และมรภ. จัดอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและ ขณะนี้เท่าที่ทราบ ทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะมีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยใหม่ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีกลุ่มใดบ้าง ทำให้เกิดความสับสน และจัดกลุ่มมหาวิทยาลัย ทำให้การทำงานซ้ำซ้อน อย่างกลุ่ม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า และกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม มหาวิทยาลัยพัฒนาด้านเทคโนโลยี ซึ่งทั้งหมดต่างลงพื้นที่ทำโครงการต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลกำหนด ทำงานไม่ต่างกับ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)หรือพัฒนากร ทั้งที่ควรให้มหาวิทยาลัยมีอิสระและทำงานตามพันธกิจหลัก คือ ผลิตบัณฑิต สร้างงานวิจัย และให้บริการทางวิชาการ

“ตรงนี้กลายเป็นปัญหา งบประมาณหลายส่วนลงไปผิดจุด อยากกำหนดให้มรภ. เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น แทนที่จะให้ทำหน้าที่สร้างหรือต่อยอดนวัตกรรม กลายเป็นว่า มรภ.เข้าไปสร้างแต่ผลิตภัณฑ์โอท็อปให้ชุมชน ทำงานไม่ต่างกับอบต.และพัฒนาชุมชน อย่างไรก็ตามการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยควรมีบทบาทในการสร้างนวัตกรรม ให้พื้นที่นำไปใช้ ไม่ให้ให้ลงไปพื้นที่ แล้วทำงานที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ส่วนการทำงานของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการอว. ซึ่งรับตำแหน่งมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนนั้น เท่าที่ดูนายเอนก พยายามปรับตัวการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นการสานต่อจากงานเดิมจาก นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการอว. ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องยอมรับว่านโยบายของนายสุวิทย์หลายเรื่อง ยังเป็นนามธรรม ดังนั้นอยากให้วิเคราะห์และปรับปรุงนโยบายบางส่วนให้สามารถดำเนินการได้จริง