หุ้นปันผลน่าลงทุน-ผลตอบแทนมากแค่ไหน
TNN ช่อง16
7 กุมภาพันธ์ 2564 ( 08:51 )
182
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดหุ้นไทย เพราะนอกจากจะชนะอัตราเงินเฟ้อแล้วยังให้ผลตอบแทนดีกว่าเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของไทย ที่อยู่ในระดับ 1.2% ซึ่งถือว่าต่ำมาก
ทั้งนี้แม้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในปี 63จะหดตัวรุนแรง คาดว่าจะติดลบเกือบ 40% จากผลกระทบของ COVID-19 แต่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ระดับน่าพอใจที่ประมาณ 2% และคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% ในปี นี้ ซึ่งมากกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยประมาณ 2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคาร คาดว่าน่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผลได้เป็นปกติในช่วงปลาย เดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกเลิกคำสั่งการห้ามการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
สำหรับการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงนับตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นมาพบว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี มีโอกาสสูงถึง 83-100% ที่หุ้นปันผลมจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด (Outperform) และให้ผลตอบแทนโดยรวมเฉลี่ยดีกว่าตลาดประมาณ 2.5% ดังนั้น บล.ทิสโก้จึงให้ความสำคัญกับหุ้นปันผลมากเป็นพิเศษสำหรับการลงทุนในช่วง 2 เดือนนี้
ส่วนเดือนกุมภาพันธ์นี้ ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งเดือนแรกจะมีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์-หาฐานใหม่ เพราะมีแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับลดกำไรบจ.ตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันนักวิเคราะห์ในตลาดมองว่าอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้นของหุ้นไทย (SET EPS) ปี 64 จะอยู่ที่ 76.9 บาท และปี 65 จะอยู่ที่ 90.8 บาท ประกอบกับเม็ดเงินในตลาดอาจตึงตัวชั่วคราวจากการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่
ผสมโรงกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เตรียมปรับปรุงเกณฑ์หุ้นที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ในระดับต่ำ (ฟรีโฟลทต่ำ) ใหม่ ทำให้มีแรงขายปรับพอร์ตอยู่ในระยะสั้น
ล่าสุดนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิเดือนมกราคมต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิ และยังไม่มีสัญญาณเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าก้อนใหม่ ประกอบกับการกู้เงินของรัฐบาลด้วยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ มูลค่ารวม 6 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ “เราชนะ” จะกดดัน Fund Flows ต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนนี้ ก่อนที่จะมีโอกาสกลับมาไหลเข้าในช่วงครึ่งหลังของเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่หุ้น IPO ขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนในตลาดแล้ว และสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “เราชนะ”
"หากตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามที่คาด บล.ทิสโก้แนะนำว่าควรใช้โอกาสนี้เป็นจังหวะทยอยตั้งรับ โดยมี 3 ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับเดือนกุมภาพันธ์คือ 1. หุ้นปันผลดี แนะนำ AP, DCC, KKP, และ SCB 2. หุ้นได้ประโยชน์จากวัคซีน-การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แนะนำ BDMS, SCGP และ STGT และ 3. หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว แนะนำ KCE และ TWPC "
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE