Apple ปล่อย iPhone 16 พร้อมขนทัพของใหม่เปิดตัวใน Apple Event 2024
จบไปอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงาน Apple Event 2024 ในชื่อธีมงานว่า it’s Glowtime กับการเปิดตัวสมาร์ตโฟน สุดฮอตที่หลายคนตั้งตาคอย กับ iPhone 16 ซีรีส์ ที่ชูจุดเด่นคือความสามารถในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และปุ่มคำสั่งใหม่ รวมถึงยังขนทัพผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด Apple Watch และ AirPods มาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ สมกับการรอคอย
Apple Watch
เริ่มกันที่ นาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch รุ่นที่ 10 ที่ปีนี้ได้มีการออกแบบโฉมใหม่ ด้วยตัวเรือนแบบบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา รวมถึงการขยายพื้นที่จอใหญ่ขึ้น แสดงข้อมูลได้มากขึ้น และใช้จอภาพ OLED มุมกว้าง ทำให้หน้าจอสว่างขึ้นเมื่อมองจากด้านข้าง ในเรื่องของฟีเชอร์ด้านสุขภาพ มีการอัปเกรดเซ็นเซอร์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยแอปพลิเคชันสัญญาณชีพ วัดและแจ้งเตือนภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ส่วนสายกิจกรรม มีอัปเกรดเซ็นเซอร์วัดความลึก และอุณหภูมิในน้ำ นอกจากนี้ Apple Watch รุ่นที่ 10 ยังชาร์จได้เร็วขึ้น โดยชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาแค่ 30 นาที
ส่วน Apple Watch Ultra 2 มีการอัปเกรดเรื่องของวัสดุ ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมดำใหม่ ออกแบบตอบโจทย์สายสปอร์ตที่รักการผจญภัย ใส่ดำน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร ส่วนแบตอึดทนใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดปกติ และใส่ฟีเชอร์ด้านการเชื่อมต่อ สุขภาพ และความปลอดภัย รวมถึงระบบ GPS ที่แม่นยำมากขึ้น
สำหรับราคาวางจำหน่าย Apple Watch รุ่นที่ 10 เริ่มต้นที่ 14,900 บาท และ Apple Watch Ultra 2 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท
AirPods
ต่อกันที่อุปกรณ์หูฟัง AirPods ปีนี้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ AirPods 4 ดิไซน์ให้เข้ากับใบหู สวมใส่สบาย เคสชาร์จรองรับ USB-C ภายในมีชิป H2 มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำที่อยู่รอบข้าง พร้อมให้เสียงโทรชัดขึ้นด้วยคุณสมบัติการแยกเสียง ใช้งานหูฟังได้นานสุด 30 ชั่วโมงเมื่อมีเคส และฟังได้นานสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ส่วน AirPods Max มีสีใหม่ ฟ้า ม่วง มิดไนท์ สตาร์ไลต์ และส้ม และฟีเชอร์การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟระดับโปร รองรับการชาร์จแบบ USB‑C แบตเตอรี่ ใช้พลง ดูภาพยนตร์ หรือสนทนาได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
สำหรับราคาเริ่มต้นของ AirPods 4 อยู่ที่ 4,990 บาท ส่วน AirPods Max อยู่ที่ 19,900 บาท
iPhone 16 / iPhone 16 Plus
และที่รอคอยกันมาตลอดทั้งงานนี้ ก็คือการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล iPhone 16 โดย Apple ระบุว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่ออกแบบมาเพื่อ Apple Intelligence หรือ AI ที่พัฒนาโดย Apple ที่จะเป็นเหมือนผู้ช่วยให้การทำงานของแอปพลิเคชันและฟีเชอร์ต่าง ๆ ฉลาดมากขึ้น
ในแง่รูปลักษณ์ iPhone16 ซีรีส์นี้ มาพร้อมปุ่มใหม่ Camera Control ให้ผู้ใช้งานมีวิธีที่ง่ายขึ้นในการเข้าถึงเครื่องมือของกล้องได้อย่างรวดเร็ว เช่น สามารถใช้นิ้วเลื่อนเพื่อปรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของกล้อง อย่างค่าแสง หรือมิติความชัดลึก แล้วสลับไปมาระหว่างเลนส์แต่ละตัว หรือใช้การซูมแบบดิจิทัลเพื่อจัดเฟรมภาพ ส่วนปุ่ม Action บน iPhone 16 จะปรับให้สามารถเลือกใช้เป็นปุ่มลัดพิเศษสู่คุณสมบัติที่ชอบ เช่น ไฟฉาย เสียงบันทึก โหมดปิดเสียง ตามที่เราต้องการ
สำหรับสเปกอื่น ๆ iPhone 16 มาพร้อมจอขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 16 Plus มาพร้อมจอขนาด 6.7 นิ้ว ทั้งคู่ใช้ชิปประมวลผล A18 ระบบกล้องคู่ Fusion 48MP อัลตร้าไวด์ 12MP ใช้ชิป A18 ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น
สำหรับราคาเริ่มต้นของ iphone 16 อยู่ที่ 29,900 บาท และ iPhone 16 Plus อยู่ที่ 34,900 บาท
iPhone 16 Pro / iPhone 16 Pro Max
ในขณะที่ตระกูล iPhone16 Pro และ iPhone16 Pro Max ดิไซน์คล้ายกับรุ่นธรรมดา แต่ต่างกันที่กล้องยังคงเป็นแบบ 3 ตัว และขนาดหน้าจอของรุ่น iPhone16 Pro Max ที่มาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ ด้วยการเพิ่มขนาดจอใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว หรือใหญ่ที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมา ส่วนรุ่น iPhone16 Pro จะใช้เป็นจอขนาด 6.3 นิ้ว
ในเรื่องของกล้อง จัดเต็มสมกับระดับโปร 3 ตัว Fusion 48MP อัลตร้าไวด์ 48MP และเทเลโฟโต้ และฟีเชอร์การถ่ายทำวิดีโอที่ล้ำขึ้น Dolby Vision ระดับ 4K สามารถปรับความเร็วในการเล่นหลังจากถ่ายเสร็จแล้วได้ รองรับการถ่ายวิดีโอ และปรับแต่งความเร็ววิดีโอให้เป็น Slow Motion ภายหลังได้ ส่วนระบบเสียงมีฟีเชอร์ Audio Mix ปรับลักษณะของเสียงพูดในวิดีโอโดยใช้ตัวเลือกเสียงพูดที่ต่างกัน 3 แบบ เพื่อให้ได้เสียงอย่างที่ต้องการหลังจากถ่ายวิดีโอเสร็จแล้วได้ ส่วนชิปประมวลผลจะขยับมาเป็น A18Pro เล่นวิดีโอนานสูงสุด 33 ชั่วโมง บนรุ่น Pro Max และ 27 ชั่วโมง บนรุ่น Pro
สำหรับราคาเริ่มต้นของ iphone 16 Pro อยู่ที่ 39,900 บาท และ iPhone 16 Pro Max อยู่ที่ 48,900 บาท
โดยตระกูล iPhone 16 ทั้งหมด เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า 13 กันยายน เวลา 19.00 น. และเริ่มวางจำหน่าย 20 กันยายนนี้
ข้อมูลจาก apple, apple-watch-ultra-2/, airpods-4/, iphone-16/specs/