เจ้าของคาร์แค ร้องทนายโป้ง ถูกนายหน้าหนุ่มโปรไฟล์ดี ริบเงินมัดจำรถหรู อ้างผิดสัญญา
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สำนักงานกฏหมายพิทักษ์ธรรม(ทนายโป้ง) ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบ น.ส.ธัญญ์รวีหรือต้า เอกอัครภูววัฒน์ เดินทางเข้าพบกับทนาย เกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายจิตอาสา เพื่อปรึกษากรณีที่ตนได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายรถพอชหรูผ่านตัวแทนนายหน้าคนหนึ่ง ในหนังสือสัญญาระบุซื้อขายรถ วันที่ 26 พ.ค.2565 เป็นรถยี่ห้อ ปอเช่ รุ่น 718 Boxster สีเหลือง เปิดประทุนในราคา 5,390,000 บาท โดยได้มีการวางเงินมัดจำไว้ที่ 50,000 บาท ซึ่งรถคันดังกล่าวมีนายปฐวี หรือตั้ม แสงทอง เป็นเจ้าของรถ โดยมีนายหน้า ชื่อเล่นว่า บิ๊ก เป็นตัวเเทนขายรถยนต์หรู ย่านราชพฤกษ์และอีกหลายโชว์รูมชื่อดัง
น.ส.ธัญญ์รวี เปิดเผยว่า เรื่องการจองมัดจำเรื่องรถพอช Porsche 718 ตนขออนุญาตไม่บอกทะเบียนแต่ว่าทุกคนก็อยากจะได้รถป้ายแดงอยู่แล้ว ก็ได้ไปจองกับศูนย์ป้ายแดงชื่อดังย่านวิภาวดี ซึ่งมีการจองและจัดไฟแนนซ์ผ่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับไฟแนนซ์แห่งนึง แต่รอรถค่อนข้างที่จะนานมากประมาณ 8-9 เดือน ตนก็เริ่มอยากได้รถ จึงได้เข้าไปดูในเน็ตก็จะมีรถที่เป็นรถมือสองที่ชอบใจอยู่ เราก็เลยตัดสินใจไปดูรถคันนี้แล้วพอตนไปดูรถคันนี้แล้ว ก็ได้มีการจัดไฟแนนซ์กับรถคันนี้เกิดขึ้นอีก โดยการจัดไฟแนนซ์กับบริษัทไฟแนนซ์อีกแห่งนึง ที่ไม่ใช่ไฟแนนซ์เจ้าแรกที่ตนจัดผ่านแล้ว แต่เป็นไฟแนนซ์ใหม่ที่ส่งมาสำหรับรถมือสอง และได้มีการโอนเงินจองค่ามัดจำจำนวน 50,000 บาท ให้กับทางนายหน้าชื่อบิ๊กคนนี้ ซึ่งในยอดจัดได้ขอไปที่ยอด 4,800,000บาท แต่จัดออกมาสรุปได้เพียงแค่ 2,800,000 บาท มันไม่สามารถจัดเต็มในยอดเงินของ 4,800,000 บาทที่ต้องการได้ อันที่จริงเขาจึงต้องมีการโอนเงินค่ามัดจำจองจำนวน 50,000 บาท กลับคืนมาให้เรา ต่อมาตนได้รับเงินจองคืนจากเจ้าของรถเองจำนวน 20,000 บาท โดยทางเจ้าของรถอ้างว่าได้รับเงินจองรถจากนายหน้าคนนี้มาแค่20,000บาทเท่านั้น และจากการที่พูดคุยกันเจ้าของรถก็ได้รับเงินจองเพียงแค่ 20,000 บาทเท่านั้นจริงๆ โดยตอนนี้ทางนายหน้าชื่อบิ๊กคนนี้ไม่ยอมคืนเงินส่วนต่างอีก 30,000 บาทให้กับตน วันนี้จึงต้องมาปรึกษาทนายโป้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
น.ส.ต้า กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ก็จะเดินทางเข้าแจ้งความสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งนายหน้าคนนี้ก็ได้มีการแอบอ้างชื่อของเจ้าของรถด้วย ซึ่งทางเจ้าของรถก็ยินดีมาเป็นพยานให้ ตนก็เลยต้องมาปรึกษาทนายโป้งให้ทนายโป้งช่วยจริงๆ เสียดายเงินมากๆเราก็ไม่อยากให้เคสนี้เกิดขึ้นกับใคร และอยากฝากเตือนสำหรับคนที่อาจจะจองรถไป แล้วไม่ได้เงินจองคืนโดยที่เราไม่ได้ผิดเงื่อนไขตามที่ตกลกัน ก็อยากจะให้ออกมา แจ้งความหรือว่าติดต่อมาหาตนก็ได้ เพราะว่าเท่าที่รู้มาคือนายหน้าคนนี้ทำกับลูกค้ามาแล้วหลายคน แล้วก็ฝากเตือนสำหรับคนที่อยากซื้อรถมือสองหรือว่าอยากซื้อรถตามท้องตลาดทั่วไปก็อยากจะให้ซื้อกับเต็นท์โดยตรงซื้อกับเจ้าของรถโดยตรงจะปลอดภัยกว่าจะได้ไม่ต้องมาช้ำใจเหมือนที่ตนโดนมา
ทนาย เกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวว่า เบื้องต้นดูเอกสารสัญญาที่ทำปรากฏว่ามีตัวละครเยอะแยะมากมายเลยนะครับ ทั้งชื่อของคนขายก็เป็นที่ยุติแล้วว่าเป็นเจ้าของรถจริง แต่คนที่มาทำสัญญาเนี่ยกลับไม่ใช่เจ้าของรถ แต่เป็นอีกคนนึง แล้วคนที่ทางคุณต้าซื้อก็ได้มีการโอนเงินไปให้จำนวน 50,000 บาท ก็เป็นชื่ออีกคนนึงแล้วจากการที่โทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าของรถ เขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องเลยว่าคน 2 คน นี้ มาทำอะไรแบบนี้ แล้วเอกสารมอบอำนาจอะไรก็ไม่มี ทางเจ้าของรถก็ยืนยันว่าได้รับเงินมาจากนายหน้า 2 คนนี้ จำนวน 20,000 บาทเท่านั้น แล้วเขาก็โอนคืนให้กับคุณต้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 30,000 บาท ทางคุณต้าเขาก็ได้ไปทวงถามกับคนที่มาเซ็นต์สัญญากับเขากับคนที่เขาโอนเงินให้และทางตนได้ติดต่อโทรไปทางปลายทางคนที่ได้รับโอนเงินเนี่ยเขาก็โบ้ยให้ไปติดต่อกับน้องชายเขาเพราะว่าเขาบอกว่าเอกสารหลักฐานอะไรอยู่กับน้องชายเขาหมดแล้ว
ส่วนจะเป็นผู้เสียหายในเรื่องของการปลอมเอกสารใช้เอกสารปลอม โดยการที่ปลอมชื่อเขามาใช้ชื่อเขามาหรือว่า 2 คนนี้ก็จะเป็นเรื่องของการร่วมกันฉ้อโกงก็คือไปแอบอ้างชื่อคนอื่นที่เป็นเจ้าของรถซึ่งปรากฏว่าข้อมูลในสัญญาเนี่ยก็ไม่ตรงกับความจริงทั้งทะเบียนรถทั้งอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่ตรง ก็ได้แนะนำให้ผู้ร้องให้ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบุคคลทั้งสองในฐานร่วมกันฉ้อโกง และฝากเตือนการซื้อขายอะไรถ้ามีสัญญาอะไรกันก็แล้วแต่ มีสัญญาตามตัวบทกฎหมายก็จริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะเซ็นต์ หรือว่าก่อนที่จะโอนเงินมัดจำเงินอะไรต้องดูเอกสารให้ละเอียดถี่ถ้วนการซื้อขายรถยนต์ควรจะดูสมุดทะเบียนหรือสำเนาเล่มก่อนว่ารถที่เราจะซื้อ ทะเบียนนี้ถูกต้องตรงไหมชื่อผู้ครอบครองผู้มีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตรงไหม แล้วก็สัญญาคนที่จะขายตัวจริงมาหรือเปล่ามีสำเนาทะเบียนบ้านประชาชนมาแสดงไหมหรือเป็นผู้รับมอบอำนาจมีหนังสือมอบอำนาจมาหรือเปล่า ก็ฝากเตือนว่าจะทำสัญญาหรือจะโอนเงินอะไรก็แล้วแต่ดูให้รอบคอบดูให้ละเอียดว่าเป็นคู่สัญญาที่แท้จริงหรือเปล่าไม่งั้นอาจจะมีปัญหาตามมาทีหลังได้