รู้ไหมผมเป็นใคร? ผบช.ไซเบอร์ โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรป่วน ลั่นอย่ามาทะลึ่ง
วันนี้ (20 ก.พ.65) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ หรือกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้โพสต์คลิปที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหา ขณะกำลังออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนส จึงให้เทรนเนอร์บันทึกคลิปขณะสนทนากับกลุ่มมิจฉาชีพ ระหว่างการพูดคุย พร้อมระบุว่า "คุณรู้ไหมผมเป็นใคร ผมเป็นผู้บัญชาการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ อย่ามาล้อเล่นกับผม ไปล้อเล่นกับคนอื่น อย่าทะลึ่ง"
หลังวางสายจบจึงโพสต์คลิปเสียงสนทนาผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เพื่อเตือนให้ประชาชนไม่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ พร้อมกับนำประกาศของบริษัทขนส่งดังกล่าว ที่เคยออกประกาศเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น DHL Express เพื่อหวังหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโดยมีในหลายรูปแบบ เช่นโทรมาในรูปแบบอัติโนมัติอ้างว่าพัสดุตีกลับ และให้กดหมายเลขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
พล.ต.ท.กรไชย ระบุว่า "ขอตอบเหมือนกันนะครับทุกความรู้สึกของภาคประชาชนนะครับ เพื่อง่ายต่อการเข้าใจเกรงว่าท่านจะเข้าใจผิดคิดว่าผมโยนให้ประชาชน ผมขอขอบคุณครับ ในข้อห่วงใยเราจะขยายทุกคดีที่มีการแจ้งไม่ใช่เฉพาะที่โทรหาผมครับ ไม่ว่าท่านจะเป็นใครรวยจนมีโอกาสถูกหลอกเหมือนกันครับ(ขอใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายนะครับ)ก็อย่างที่เห็นที่ไปช่วยเหลือที่กัมพูชา
ผมทำให้ดูเราไม่กลัว มันก็จะไม่กล้าครับ ไม่ได้ผลักไสไปให้หลอกประชาชน มีเตือนมันกลับไปครับแต่มันรวมกับคำไม่สุภาพจึงไม่ลงครับ ไม่ใช่ใหญ่คับฟ้าหรอกครับ ท่านก็ทำได้ มันหลอกเรา เราก็หลอกกลับมันบ้าง จริงๆ ผมพูดยาวกว่านี้ครับแต่มันไม่สุภาพจึงขอที่จะไม่ลง มีตอนเตือนไม่ให้หลอกคนอื่นครับแต่มันรวมกับคำไม่สุภาพจึงลงไม่ได้ แค่ท่านอ่านที่ผมลงเตือนแค่นี้ท่านก็จะปลอดภัยจากมิจฉาชีพทางไซเบอร์ครับ
ปล.อีกนิดเบอร์ที่โทร หาพี่แจงและอีกหลายๆท่านเป็นเบอร์โทรจากคอมพิวเตอร์ หรือ VOIP (voice over internet protocol ) ซึ่งโทรจากต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายของไทย จึงต้องทำการตรวจสอบกลับไปยังเครื่องต้นทาง ซึ่งนี้คือวิธีของแก๊ง call center"
นอกจากนี้ ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า "ให้มิจฉาชีพไปทำกับคนอื่นแทนที่จะบอกให้เลิกทำแบบนี้" โดย พล.ต.ท.กรไชย ได้ตอบคอมเม้นท์ว่า "ขอเรียนว่า ที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ ได้มีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามขบวนการแก๊งค์ Call Center มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีม้า ต้นตอของการหลอกลวงทางด้านการเงิน หรือแม้แต่ การร่วมมือกับทางกัมพูชา ในการสืบสวนติดตามจับกุม กลุ่มคนไทยและนายทุนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการในการก่อเหตุในลักษณแบบนี้ ซึ่งมักแฝงตัวอยู่ตามแถบประเทศเพื่อนบ้าน
รวมทั้ง มาตรการป้องกัน ในการประสานความร่วมมือกับ กสทช. และ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือต่างๆ ในการบล็อค ไม่ให้มิจฉาชีพ ใช้ระบบ VoIP โทรมาจากแถบประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาหลอกลวงคนไทย
ที่พี่แจง ได้โพสต์ลงใน Facebook นี้ เพียงมุ่งหวังให้เพื่อนๆ ไม่หลงกล ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยใช้อุบายในการหลอกลวงมิจฉาชีพคืน และ ที่สำคัญ เป็นการย้ำเตือนให้ทุกท่านมีสติ เท่าทันกับรูปแบบการหลอกลวง ในลักษณะแบบนี้
ท้ายนี้ ในการขยายผลจับกุม มิจฉาชีพแก๊งค์ Call Center ทุกคดี (ไม่ใช่แค่คดีที่โทรมาหาผม) หรือ คดีอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่างๆ ผมและตำรวจไซเบอร์ทุกคน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานอย่างเต็ม ในการกวาดล้างมิจฉาชีพและอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ให้หมดสิ้นไป"
ข้อมูลและภาพจาก Kornchai Klayklueng