รีเซต

Anduril เปิดตัว “EagleEye” หมวกอัจฉริยะเสริม AI ติดเซนเซอร์รอบทิศทาง

Anduril เปิดตัว “EagleEye” หมวกอัจฉริยะเสริม AI ติดเซนเซอร์รอบทิศทาง
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2568 ( 15:16 )
30

แอนดูริล อินดัสทรี้ (Anduril Industries) บริษัทเทคโนโลยีป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ เปิดตัว อีเกิลอาย (EagleEye) หมวกคอมพิวติ้งแบบ Mixed Reality (MR) หรือเทคโนโลยีที่ผสานโลกเสมือน คล้าย Virtual Reality (VR) ที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI และระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์มาผสานเข้ากับการมองเห็นของทหารโดยตรง เป้าหมายคือเพิ่มขีดความสามารถของ “นักรบยุคใหม่” ให้มีการรับรู้และตัดสินใจรวดเร็วกว่าที่เคย

หมวกอีเกิลอาย (EagleEye) พัฒนาขึ้นบนซอฟต์แวร์ แลททีส (Lattice) ของ แอนดูริล (Anduril) โดยสามารถแสดงข้อมูลสั่งการ ฟีดวิดีโอสดจากกล้อง เซนเซอร์ตรวจจับภัยรอบทิศ และระบบติดตามเพื่อนร่วมทีมแบบเรียลไทม์ ทหารสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบหมวกเต็มรูป ไวเซอร์ (visor) หรือกระบังหน้าอัจฉริยะ ที่แสดงภาพและข้อมูลจากระบบ AI แบบเรียลไทม์อยู่ตรงหน้าผู้สวมใส่

หมวกอีเกิลอาย (EagleEye)

รูปลักษณ์ภายนอก

หมวกอีเกิลอาย (EagleEye) มีรูปแบบ หมวกเต็มรูปแบบ (Helmet) สำหรับภารกิจภาคสนามหนัก และแบบกระบังหน้าอัจฉริยะ (Visor) สำหรับงานควบคุม และ แว่นตา (Glasses) ที่เน้นความคล่องตัวสูง ทุกแบบออกแบบให้มีพอร์ตต่อกล้องหรือเซ็นเซอร์เสริมรอบตัว ตัวหมวกใช้วัสดุที่ทนแรงกระแทกและสภาพอากาศตามมาตรฐานทางทหาร ภายในติดตั้ง ระบบระบายอากาศและบุนวมลดแรงกดที่ศีรษะ เพื่อให้สวมใส่ได้นานโดยไม่เมื่อยล้า หน้าจอโปร่งใสเคลือบสารลดแสงสะท้อน รองรับการทำงานกลางวันและกลางคืน และสามารถเชื่อมต่อกับกล้องอินฟราเรดหรือภาพความร้อนได้ ตัวหมวกยังมีไมโครโฟนและลำโพงในตัว สำหรับสื่อสารภาคสนาม และแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้รวดเร็ว ที่ติดตั้งสมดุลน้ำหนักไว้ด้านหลังศีรษะ

ฟังก์ชั่นและการออกแบบระบบ

หมวกอีเกิลอาย (EagleEye) ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งแบบโมดูลาร์ที่ผสานเทคโนโลยี AI AR และระบบเซ็นเซอร์ฟิวชัน (Sensor Fusion) เข้าด้วยกัน เพื่อให้ทหารมองเห็นข้อมูลสำคัญผ่านจอโปร่งใสแบบ HUD (Head-Up Display) โดยตรงในขณะปฏิบัติภารกิจ ระบบสามารถรวมภาพจากกล้องหลายทิศทาง ฟีดวิดีโอสดจากโดรนหรือยานเกราะ ข้อมูลตำแหน่ง และการแจ้งเตือนภัยรอบทิศแบบเรียลไทม์ 

หมวกติดตั้งระบบ AI ประมวลผลในเครื่อง (Edge AI) ที่ช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ ตรวจจับภัยคุกคาม หรือระบุเป้าหมายได้แม้ในพื้นที่ที่สัญญาณเครือข่ายไม่เสถียร นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน ติดตามเพื่อนร่วมทีม (Teammate Tracking) และการเชื่อมต่อข้อมูลอย่างปลอดภัยแบบเข้ารหัสหลายช่องทาง เพื่อให้ทุกนายในสนามรบเห็นภาพรวมสถานการณ์เดียวกัน

หมวกอีเกิลอาย (EagleEye) จึงไม่ใช่แค่หน้าจอที่สวมบนหัว แต่คือระบบฮาร์ดแวร์ ผสานกับซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเป็นชุด ทั้งโครงสร้างภายนอกที่ชัดเจนว่าเน้นความทนทานและใช้งานจริง และสถาปัตยกรรมภายในที่มุ่งให้ AI ทำงานใกล้ผู้ใช้เพื่อลดความหน่วงและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจของทหาร

นำทีมโดย Palmer Luckey ผู้บุกเบิก VR

โครงการนี้นำโดยพาลเมอร์ ลัคกีย์ (Palmer Luckey) ผู้ร่วมก่อตั้ง แอนดูริล (Anduril) และผู้ก่อตั้งโอคูลัส (Oculus) บริษัทที่สร้างชื่อให้เขาในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ก่อนที่ บริษัท เมต้า (Meta) จะเข้าซื้อกิจการไปในปี 2014

การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาของพาลเมอร์ ลัคกีย์ (Palmer Luckey) ที่ตั้งใจใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อยกระดับสมรรถนะของทหารจริง เขากล่าวว่า “ภารกิจของผมคือการเปลี่ยนผู้สู้รบให้กลายเป็นเทคโนแมนเซอร์ (Technomancers) และผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังสร้างร่วมกับ Meta ก็ทำสิ่งนั้นได้จริง”

สัญญาใหญ่จากกองทัพสหรัฐฯ

กองทัพบกสหรัฐฯ มอบหมายให้ แอนดูริล (Anduril) เข้ามามีบทบาทสำคัญหลังระบบ IVAS ของ Microsoft ที่มีมูลค่ากว่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาห์สหรัฐฯ หรือราว 8.03 แสนล้านบาท ประสบปัญหาความล่าช้า โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Anduril ได้รับสัญญามูลค่า 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบ Mixed Reality รุ่นต้นแบบใหม่ภายใต้โครงการ ระบบบัญชาการภารกิจแบบติดตัวทหาร (Soldier Borne Mission Command) โดยบริษัทอ้างว่านี่คือ “โครงการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อเสริม “การรับรู้เหนือมนุษย์” ให้แก่ทหารทุกนาย

แนวคิดของ หมวกอีเกิลอาย (EagleEye) มีมาตั้งแต่ร่างแรกของแผนธุรกิจ แอนดูริล (Anduril) ก่อนที่ทีมจะเปลี่ยนไปพัฒนาโซลูชันซอฟต์แวร์ แลททีส (Lattice) เป็นหลัก แต่ “พาลเมอร์ ลัคกีย์” (Palmer Luckey) กล่าวในโพสต์บน X ว่า “ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว โลกพร้อมแล้ว และ แอนดูริล (Anduril) ก็พร้อมเช่นกัน”

กล่าวคือ EagleEye ไม่ใช่เพียงหมวกหรือแว่นตาเทคโนโลยี แต่คือระบบ “สมองกลภาคสนาม” ที่ออกแบบมาให้ AI ทำงานเคียงข้างทหาร เพิ่มศักยภาพในการรับรู้ ตัดสินใจ และปฏิบัติการได้รวดเร็วกว่าเดิมในทุกสภาพแวดล้อม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง