ปากีสถานตายเพิ่ม 24 คน จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.7 คาดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บมากกว่านี้
Pakistan: ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว 5.7 ในปากีสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 24 คน คาดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นกว่านี้ และมีผู้บาดเจ็บ 100-300 คน เกิดเหมืองถ่านหินถล่มมีคนงานติดอยู่ภายใน 15 คน ส่วนแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ปรับลดความแรงเหลือ 5.9 จากเบื้องต้น 6.1 มีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 32 คน เตือนจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกได้อีกนาน 1 สัปดาห์
กระทรวงมหาดไทยปากีสถานรายงานยอดผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหว 5.7 ที่จังหวัดบาลูจิสถานในปากีสถานเมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม) เพิ่มขึ้นเป็น 24 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน แต่สื่อท้องถิ่นรายงานจำนวนผู้บาดเจ็บอย่างไม่เป็นทางการ สูงกว่าทางการหลายเท่า อยู่ที่กว่า 300 คน รวมถึงเด็ก ๆ จำนวนมาก
จังหวัดบาลูจิสถานของปากีสถานที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็นจังหวัดชายแดนอยู่ติดกับอัฟกานิสถานและอิหร่าน แต่ไม่มีรายงานผลกระทบในทั้ง 2 ประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว
ด้านทางการฮาร์ไน ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในบาลูจิสถานครั้งนี้ ส่งทีมกู้ภัยออกตรวจสอบ หลังมีรายงานข่าวว่า มีคนงานเหมืองถ่านหิน 15 คน ติดอยู่ภายในเหมืองที่ถล่มขณะเกิดแผ่นดินไหว
ส่วนบ้านเรือนที่สร้างจากอิฐดินโคลนในพื้นที่แผ่นดินไหว พังถล่มหรือเสียหายหลายร้อยหลัง เพิ่มจากเดิมที่พังถล่มไป 100 กว่าหลัง เกิดความเสียหายใน 6 เมืองของจังหวัดบาลูจิสถาน
โดยเมืองฮาร์ไน ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ เสียหายหนักสุด ฮาร์ไนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาที่ห่างไกล แผ่นดินไหวทำให้เกิดดินถล่มลงมาขวางถนนหลายจุด เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังเกิดไฟฟ้าดับ เนื่องจากแผ่นดินไหวทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก และโทรศัพท์ก็ยังขัดข้องด้วย
ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลเมืองเก๊ตต้า เมืองเอกของบาลูจิสถาน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ หลังต้องรับรักษาผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวจนล้นโรงพยาบาล โดยทางกองทัพปากีสถานได้ส่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำ ไปช่วยลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากพื้นที่แผ่นดินไหวไปยังโรงพยาบาลในเมืองเก๊ตต้า เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งในฮาร์ไนไฟฟ้าดับ จนต้องรักษาผู้บาดเจ็บท่ามกลางความมืดมิด อาศัยแสงสว่างเพียงจากโทรศัพท์มือถือและไฟฉายเท่านั้น
มีรายงานเกิดแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกราว 2 ชั่วโมง ยิ่งสร้างอุปสรรคใหญ่และเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ต้องปฏิบัติงานท่ามกลางความมืดมิดเช่นกัน
ส่วนที่ญี่ปุ่น สำนักข่าว Kyodo ของญี่ปุ่น รายงานล่าสุดในวันนี้ (8 ตุลาคม) ว่า จำนวนผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหว เพิ่มขึ้นเป็น 32 คน โดยมี 3 คนมีอาการวิกฤต หลังเกิดแผ่นดินไหว 5.9 เขย่ากรุงโตเกียวและปริมณฑลเมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม)
ทางสำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น หรือ JMA ได้ปรับลดความแรงแผ่นดินไหวลงจากเบื้องต้น 6.1 มาเป็น 5.9
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยังเตือนประชาชนว่า จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้งเป็นเวลานานประมาณ 1 สัปดาห์หลังเกิดแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ นับว่ามีความแรงที่สุดในรอบ 10 ปีของญี่ปุ่น นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว 9.0 เมื่อปี 2011 ที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และมีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คนในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายโดยรวมที่เกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเกิดเหตุท่อประปาแตกหลายจุด อาคารราว 150 หลังในกรุงโตเกียวและสถานีรถไฟหลายแห่ง เกิดไฟฟ้าดับเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ไฟฟ้ากลับมาแล้ว และรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงในโตเกียว ก็กลับมาให้บริการปกติแล้ว และมีผู้โดยสารแน่นขนัดในช่วงเช้าวันนี้ (8 ตุลาคม) 1 วันหลังเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากรถไฟเกิดความล่าช้า หลังหยุดเดินรถไปช่วงหนึ่งขณะเกิดแผ่นดินไหว