รีเซต

โอกาสตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2025

โอกาสตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2025
TNN ช่อง16
7 กรกฎาคม 2568 ( 15:46 )
15

"ประกิต สิริวัฒนเกตุ" วิเคราะห์สถานการณ์ภาษีสหรัฐฯ ชี้มีความเป็นไปได้สูงที่ไทยจะได้รับการ "ขยายเวลา" เจรจาออกไปอีก 3 สัปดาห์ และเลื่อนการเก็บภาษีจริงเป็น 1 ส.ค. มองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นที่น่าเสี่ยงลงทุน ประเมินดาวน์ไซด์ตลาดหุ้นไทยจำกัดที่แนวรับ 1,080 จุด แนะกลยุทธ์เล่นสั้นเก็งกำไรกลุ่มส่งออก และชี้เป้าหุ้นหลบภัยกลุ่มโรงพยาบาล (BCH) พร้อมยก "หุ้นยุโรป" เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้

คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ถึงผลการเจรจาการค้าและภาษีกับสหรัฐฯ ที่กำลังจะถึงเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ โดยมองว่าสถานการณ์ยังไม่ถึงทางตัน และมีโอกาสที่จะเกิดข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย

คุณประกิตอธิบายว่า การเจรจาที่ยังไม่ลงตัวเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่ยอมไม่ได้ สหรัฐฯ ต้องการให้ไทยเปิดตลาดสินค้าเกษตร (รวมถึงเนื้อหมู) โดยลดภาษีเป็น 0% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทยอย่างรุนแรง ขณะที่ไทยเสนอที่จะนำเข้าสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้น แต่สหรัฐฯ ไม่สนใจ

"เราไม่เหมือนเวียดนามที่ตัวเปล่าเล่าเปื่อยและยอมให้ได้ทุกอย่าง เราต้องใช้ศิลปะของการแข็งขืน ไม่รีบร้อนตอบรับ บางครั้งต้องยอมเจ็บก่อนเพื่อให้การเจรจาล้มเหลว แล้วค่อยเริ่มรอบใหม่ ซึ่งหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่นและอินเดีย ก็กำลังทำแบบเดียวกันเพื่อสร้างแรงกดดันกลับไปยังสหรัฐฯ"

หุ้นไทยดาวน์ไซด์จำกัด 1,080 - ลุ้นข่าวดีขยายเวลา

คุณประกิตเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงสุดสำหรับประเทศไทยคือ การได้รับการขยายเวลาเจรจาออกไปอีก 3 สัปดาห์ และเลื่อนการบังคับใช้ภาษีจริงออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งถือเป็นข่าวดีในระยะสั้น และเป็นจังหวะที่ "น่าเบ็ท" สำหรับตลาด

  • กรณีฐาน (20%): หากไทยโดนภาษีในอัตรา 20% เท่ากับเวียดนาม ตลาดอาจไม่ตอบรับในเชิงบวก และอาจเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,100 จุด

  • กรณีแย่กว่าคาด (>20%): หากอัตราภาษีออกมาสูงกว่า 20% ตลาดจะตกใจและปรับตัวลง แต่คาดว่า ดาวน์ไซด์จำกัด (Limited Downside) ที่แนวรับ 1,080 จุด

  • กรณีดีกว่าคาด (<20%): หากได้อัตราภาษีที่ต่ำกว่า 20% ตลาดจะ "ดีใจ" และปรับตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

"ตลาดไม่แฮปปี้อยู่แล้ว ตอนนี้ขอแค่ 20% ก็ดีใจแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเราจะได้การขยายเวลา ซึ่งเป็นข่าวดี จึงน่าเก็บไว้ก่อนเพื่อลุ้น"

กลยุทธ์ลงทุน

จากมุมมองข้างต้น คุณประกิตได้แนะแนวทางการลงทุนที่น่าสนใจดังนี้

  1. เก็งกำไรระยะสั้น: สามารถ "เบ็ท" หรือเสี่ยงลงทุนใน กลุ่มส่งออก เพื่อลุ้นข่าวดีเรื่องการขยายเวลา ซึ่งอาจทำให้หุ้นกลุ่มนี้ดีดตัวขึ้นได้ในสัปดาห์นี้

  2. หุ้นหลบภัย (Safe Haven): สำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการเสี่ยง แนะนำให้เข้าลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ได้แก่

    • กลุ่มโรงพยาบาล: มองว่าเป็นจังหวะที่ดี โดยชู BCH (บางกอก เชน ฮอสปิทอล) และ BH ที่คาดว่างบไตรมาส 2 จะฟื้นตัวดี

    • หุ้นพื้นฐานดี: ADVANC และ GULF ยังคงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดี

  3. หุ้นเก็งกำไร: CCET (CAL-COMP) กลับมาคึกคักอีกครั้ง สามารถเก็งกำไรตามรอบได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง