รีเซต

หนุ่มทาสยาฐานะดี ทุบตู้เอทีเอ็มลักกล่องใส่เงิน อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ

หนุ่มทาสยาฐานะดี ทุบตู้เอทีเอ็มลักกล่องใส่เงิน อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ
มติชน
23 ธันวาคม 2565 ( 13:24 )
31
หนุ่มทาสยาฐานะดี ทุบตู้เอทีเอ็มลักกล่องใส่เงิน อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ

เมื่อ 06.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านผือ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนร้ายงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่หน้าร้านศักดิ์สยาม ลิสซิ่ง จำกัด ถนนชนบทบำรุง เขตเทศบาลตำบลบ้านผือ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา โชติชัย สว.สส.สภ.บ้านผือ ร.ต.อ.สมศักดิ์ ดุจพายัพ รอง.สวป.สภ.บ้านผือ นำกำลังรุดไปตรวจสอบ

 

ร.ต.อ.รณภพ กล่าวว่า พบตู้เอทีเอ็มถูกทุบได้รับความเสียหาย กล่องบรรจุเงิน กล่องไฟ กล่องสำรองไฟ หายไป จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบเวลา 05.03 น. พบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อกันหนาวลาย กางเกงยีน รองเท้าแตะ เดินเข้ามาใช้คีมตัดตู้เอทีเอ็ม แบบใจเย็น โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนยกกล่องเงินขึ้นรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บร 3939 อุดรธานี ขับหลบหนีไป

 

เวลา 07.30 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ดุจพายัพ รอง.สวป.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นำกำลังออกติดตาม พบคนร้ายขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บร 3939 อุดรธานี ขับอยู่บนถนนบ้านผือ –นากลาง บริเวณบ้านภูดิน ต.บ้านผือ จึงส่งสัญญาณให้จอดรถ จากการตรวจค้น พบกล่องเงิน กล่องไฟ กล่องสำรองไฟ ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ คีมปากแหลม จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน และแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์มารับกล่องเงินไปเก็บรักษาไว้

 

จากการสอบสวนทราบชื่อ นายอัครเดช พระสว่าง หรือเต้ย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 7 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายก่อเหตุ งัดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่หน้าร้านศักดิ์สยามลิสซิ่งจริง เพราะอยากได้เงินไปใช้จ่าย โดยตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีครอบครัวแล้ว มีลูก 2 คน แต่ตอนนี้ตกงาน

 

ส่วนสาเหตุที่ไปงัดตู้เอทีเอ็ม เพราะไปกู้ยืมหนี้นอกระบบมาแบบไม่รู้ตัว ต้องการเงินไปใช้หนี้ จึงมาก่อเหตุ ตนเรียนจบช่างจึงมีความรู้เรื่องการตัดสายไฟและงัดตู้เอทีเอ็ม โดยใช้คีมตัวเดียว ยกกล่องเงินขึ้นรถปิกอัพ เพื่อนำไปทุบกล่องเอาเงิน แต่โดนตำรวจจับกุมได้ก่อน

 

ตำรวจชุดจับกุมเปิดเผยว่า นายอัครเดช ผู้ต้องหา เป็นลูกคนมีฐานะ แต่เสพยาบ้าจนติดงอมแงม ไม่ยอมทำงาน ก่อเหตุลักทรัพย์และโดนตำรวจจับมาหลายครั้ง แต่พ่อแม่จะมาขอไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย โดยจ่ายค่าเสียหายให้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้พ่อแม่ไม่ช่วยเหลือ ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนรถปิกอัพที่นำมาก่อเหตุเป็นของญาติ นายอัครเดชยืมมาขับ และนำมาก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่นายอัครเดชอ้างว่า ติดหนี้เงินกู้นอกระบบ ไม่เป็นความจริง เพราะแม้จะตกงาน แต่พ่อแม่และญาติก็ให้ความช่วยเหลือมาตลอด และหลังจากการตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง