แรงงานต่างชาติในเกาหลีใต้เสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าคนเกาหลี 3-4 เท่า

แรงงานต่างชาติในเกาหลีใต้กำลังเผชิญความเสี่ยงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการทำงานมากกว่าคนเกาหลีใต้อย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีแรงงานเสียชีวิตแล้ว 75 ราย 

ความเหลื่อมล้ำของตัวเลขชวนให้ตกใจ แรงงานต่างชาติมีสัดส่วนเพียง 3.4% ของแรงงานทั้งหมดในเกาหลีใต้ หรือราว 1 ล้านคน จากแรงงานทั้งหมด 29 ล้านคน แต่กลับคิดเป็นสัดส่วนการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุแรงงานถึง 10-15% ของแต่ละปี ซึ่งหมายความว่าแรงงานต่างชาติมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากการทำงานมากกว่าคนเกาหลีใต้ประมาณ 3-4 เท่า

ข้อมูลนี้มาจาก Korea Workers’ Compensation and Welfare Service ซึ่งเก็บสถิติคำร้องเกี่ยวกับการบาดเจ็บและการเจ็บป่วยจากการทำงาน โดยระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา มีแรงงานต่างชาติเข้ายื่นคำร้อง 5,173 กรณี เพิ่มขึ้น 4.5% จากช่วงเดียวกันของปี 2024 (4,950 กรณี) ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุจากการทำงาน 4,415 กรณี และที่เหลือ 758 กรณีเป็นโรคจากการทำงาน

ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการอนุมัติเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 59 จาก 75 ราย โดยเกือบทั้งหมดเป็นกรณีอุบัติเหตุ (อนุมัติ 51 คำร้องจาก 53 คำร้อง) ส่วนกรณีโรคจากการทำงานได้รับอนุมัติน้อยกว่ามาก (อนุมัติ 8 คำร้องจาก 22 คำร้อง)

แนวโน้มการยื่นคำร้องของแรงงานต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี จาก 8,062 กรณีในปี 2020 เพิ่มเป็นกว่า 10,000 กรณีในปี 2024

ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานระบุว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะแรงงานต่างชาติจำนวนมากกระจุกตัวอยู่ในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิต และเกษตรกรรม อีกทั้งยังต้องเผชิญอุปสรรคด้านภาษา การเลือกปฏิบัติ และสัญญาจ้างงานที่ไม่มั่นคง ทำให้ยากที่จะเรียกร้องสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยกว่า

ปัจจุบันระบบใบอนุญาตจ้างงาน (Employment Permit System) ยังจำกัดการเปลี่ยนสถานที่ทำงานของแรงงานต่างชาติ แม้ในกรณีที่สภาพการทำงานไม่ปลอดภัย 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการจ้างงานและแรงงานเกาหลีใต้เพิ่งประกาศว่าจะผ่อนคลายข้อจำกัดนี้ เพื่อเปิดทางให้แรงงานสามารถย้ายไปทำงานในที่ที่ปลอดภัยกว่าได้ง่ายขึ้น

อี ยงอู นักวิจัยอาวุโสแห่งศูนย์วิจัยและฝึกอบรมการย้ายถิ่น IOM กล่าวย้ำว่า แรงงานต่างชาติกำลังเผชิญ “การผสมผสานของอุปสรรคด้านภาษา การเลือกปฏิบัติ และสถานะการจ้างงานที่ไม่มั่นคง” ซึ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงกว่าคนทำงานทั่วไป พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข “จุดบอด” เช่น การคุ้มครองความปลอดภัยแรงงานที่ไม่มีเอกสารด้วย