รีเซต

มติประชุมสภา 313 เสียงเห็นควร "เลื่อน" วาระโหวตนายกฯ มาพิจารณาก่อน

มติประชุมสภา 313 เสียงเห็นควร "เลื่อน" วาระโหวตนายกฯ มาพิจารณาก่อน
TNN ช่อง16
5 กันยายน 2568 ( 11:48 )
12

ความคืบหน้าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย ล่าสุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้เลื่อนวาระการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี มาพิจารณาก่อน หลังเปิดให้ สส.เข้าคิวอภิปราย กว่า 2 ชั่วโมง
โดยมีผู้ลงมติเห็นชอบ 313 เสียง
ไม่เห็นชอบ 142  เสียง
งดออกเสียง 4 เสียง
ไม่ลงคะแนน 5 เสียง

ขั้นตอนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 

เป็นกระบวนการสำคัญของรัฐสภาไทย กำหนดไว้ในมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินไปตามระเบียบชัดเจน เริ่มด้วยขั้นตอนการเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายชื่อ จากพรรคการเมือง

ทั้งนี้ ต้องมี สส. รับรองรายชื่อนั้น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน สส. ทั้งหมดที่มีอยู่ หรือคิดเป็นจำนวนอย่างน้อย 50 คน ซึ่งจำนวน สส. ในสภาฯปัจจุบัน มีจำนวน 492 คน

ส่วนรูปแบบการโหวต สส. จะลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี แบบขานชื่อเรียงตามตัวอักษร จนครบจำนวน สส. ในสภาฯ ซึ่งจะใช้เสียงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสภาเป็นเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้มี สส.ทั้งหมด 492 คน ดังนั้นจึงต้องได้อย่างน้อย 247 เสียง

กรณีมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี มี 2 คนแข่งขันกัน 

ที่ประชุมจะเปิดให้สมาชิกโหวตว่าจะเลือกใคร เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง ซึ่งจะขานชื่อครั้งเดียว โหวตแข่งไปในคราวเดียวกัน หากผู้ถูกเสนอชื่อคนใดคนหนึ่งได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

แต่หากกรณี ไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงถึงเกณฑ์ หรือเกินกึ่งหนึ่งในสภาฯ จะต้อง โหวตรอบใหม่ โดยอาจกำหนดวันเวลาใหม่ หรือ ขึ้นอยู่กับมติประธานสภาและที่ประชุมสภา โดยยังคงโหวตชื่อ ทั้ง 2 คนเดิม เว้นแต่มีการถอนชื่อหรือเพิ่มชื่อใหม่ตามขั้นตอนเสนอชื่อ

สำหรับจำนวนรอบการโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้จำกัดว่ากี่รอบ ตราบใดที่ยังไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง สามารถโหวตซ้ำจนกว่าจะได้คนที่ชนะ เหมือนเช่นปี 2562 ที่โหวตครั้งเดียวจบ และในปี 2566 ที่ยืดเยื้อหลายรอบ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง