ชายแดนหญ้าแก้ว - หนองจาน ล่าสุดยังสงบพบความเคลื่อนไหวทางฝั่งกัมพูชา

วันนี้ (21 ก.ย. 68) บริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีความเคลื่อนไหวสำคัญตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่ามีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งรวมตัวกันบริเวณแนวรั้วลวดหนามด้านใน แต่เบื้องต้นยังไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย

รายงานระบุว่า กลุ่มมวลชนฝั่งกัมพูชาทยอยเข้ามารวมตัวที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จำนวนมากกว่า 50 คน และกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ โดยพักตามเพิงพักต่างๆ ขณะที่บ้านหนองจานมีชาวกัมพูชาประมาณ 50–60 คน รวมทั้งเด็กผู้หญิงและผู้สูงอายุ อยู่ใกล้หลักเขตที่ 46 ตรวจพบทหารกัมพูชาด้วย ห่างจากจุดแนวกั้นด้านนอกประมาณ 500 เมตร แต่ยังไม่มีเหตุความวุ่นวายจนเจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลัง

ตลอดทั้งวันมีชาวบ้านมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความรักชาติ ส่วนใหญ่เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแนวเขตให้ชัดเจน เพื่อลดปัญหาพื้นที่ทับซ้อน

ช่วงบ่าย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่อำเภอโคกสูง เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน โดยเฉพาะชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยตรวจตราความปลอดภัยภายในหมู่บ้านริมชายแดนไทย–กัมพูชา

อธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และรับฟังความต้องการสนับสนุนด้านต่างๆ รวมถึงนำความห่วงใยจากประชาชนและนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล มาส่งถึงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและผู้ปฏิบัติงานทุกคน พร้อมยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่สนับสนุนหลังแนวชายแดนอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหาร

หากมีการร้องขอเรื่องอุปกรณ์หรือชุดต่างๆ สามารถยื่นเรื่องขออนุมัติได้ทันที เพื่อให้กองกำลังฝ่ายปกครองและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมีความพร้อมสูงสุด โดยสิ่งของที่สนับสนุนอยู่แล้ว ได้แก่ ชุด เครื่องแบบ และอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย

อธิบดีกรมการปกครองยังเน้นย้ำถึงแนวทางการทำงาน ว่า หลังแนวชายแดนในพื้นที่ประเทศไทยเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ส่วนหน้าแนวตามเขตชายแดนเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร การทำงานทุกอย่างเป็นไปตามแผน รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศ และการประสานงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดของไทยและกัมพูชา ซึ่งมีแนวเขตชายแดนติดต่อกัน ยืนยันว่าทุกหน่วยทุกระดับปฏิบัติหน้าที่เต็มที่ มีเป้าหมายเดียวกันเพื่อปกป้องพื้นที่และอธิปไตยของประเทศอย่างเข้มแข็