มะกันไม่สนคำเตือน แห่เที่ยววันขอบคุณพระเจ้า ยุโรปจ่อคลายล็อกช่วงคริสมาสต์
ชาวอเมริกันราว 3 ล้านคนกำลังเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงวันที่ 20 -22 พฤศจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้ากับครอบครัวที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ แม้จะมีคำเตือนจากกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักในสหรัฐ
ดอกเตอร์แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐ กล่าวว่า ผู้คนในสนามบินจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เลวร้ายลงไปอีก โดยจำนวนผู้เดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงนี้มีมากที่สุดตั้งแต่นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐ
อย่างไรก็ตามมีชาวอเมริกันอีกหลายล้านคนที่ยอมอยู่บ้าน ส่งผลให้ตัวเลขผู้เดินทางในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าในปีนี้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง
แม้สหรัฐจะขอความร่วมมือให้ประชาชนลดการเดินทางในช่วงเทศกาลสำคัญส่งท้ายปี แต่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนว่ามีความตั้งใจที่จะคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลวันคริสมาสต์ เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในการระบาดรอบ 2 ลดลง หลังจากมีการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของยุโรป
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสระบุว่า ร้านค้าต่างๆ จะได้เปิดอีกครั้งในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ และจะยกเลิกคำสั่งให้อยู่บ้านในวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อที่ชาวฝรั่งเศสจะได้เดินทางกลับบ้านไปฉลองเทศกาลวันคริสมาสต์กับครอบครัวได้ แต่ยังคงแนะนำให้อยู่ในที่พักอาศัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรอบ 3
อย่างไรก็ดีประเทศฝรั่งเศสจะเริ่มมาตรการเคอร์ฟิวในช่วงค่ำคืนตั้งแต่เวลา 21.00 น. – 7.00 น. ในวันที่ 15 ธันวาคม ในขณะที่ร้านอาหารและบาร์จะยังคงปิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม
ด้านทางการอังกฤษได้ออกประกาศว่า มาตรการห้ามการรวมกลุ่มและห้ามเดินทางในประเทศจะถูกยกเลิก รวมถึงอนุญาตให้มีการรวมตัวได้สูงสุด 3 ครอบครัวในช่วงเทศกาลวันคริสมาสต์
ส่วนเยอรมันจะมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์เล็กน้อยใน 16 รัฐ โดยสามารถรวมกลุ่มได้สูงสุด 10 คนในช่วงวันที่ 23 ธันวาคม – 1 มกราคม