รีเซต

เตือนภัย 10 ข่าวปลอม ประชาชนอย่าหลงเชื่อหวั่นเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล-ทรัพย์สิน

เตือนภัย 10 ข่าวปลอม ประชาชนอย่าหลงเชื่อหวั่นเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล-ทรัพย์สิน
TNN ช่อง16
9 พฤศจิกายน 2568 ( 16:05 )
29

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน” รองลงมาคือเรื่อง “ก.ล.ต. เปิดแพลตฟอร์มลงทุนใหม่ ให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร” โดยขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน

ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 984,991 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 900 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 886 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 7 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 2 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 199 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 74 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน

อันดับที่ 2 : เรื่อง ก.ล.ต. เปิดแพลตฟอร์มลงทุนใหม่ ให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร

อันดับที่ 3 : เรื่อง ทำใบขับขี่ผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเอง เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ทุกขั้นตอน

อันดับที่ 4 : เรื่อง ทำใบขับขี่ออนไลน์ ถูกกฎหมาย ได้ใน 2 วัน ไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง

อันดับที่ 5 : เรื่อง ฮั่วเซ่งเฮง เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน ในตลาด SET50 ผ่านเพจ Gold trading Exchang

อันดับที่ 6 : เรื่อง ปปง. เปิดให้เหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ลงทะเบียนรับเงินคืน ผ่านเพจ Crime Victims Dissemination Center

อันดับที่ 7 : เรื่อง ฮั่วเซ่งเฮง เปิดขายหุ้นทองคำ SET50 ผ่านเพจ White Ɠòld Ɓullion Pure

อันดับที่ 8 : เรื่อง ปปง. คืนเงินให้ผู้เสียหายลงทะเบียน ผ่านบัญชีติ๊กต็อก tiktok.tv137

อันดับที่ 9 : เรื่อง ระบบเทรดหุ้น HOTKEYFx มี IC License ขั้นสูง รับรองโดย ก.ล.ต.

อันดับที่ 10 : เรื่อง SET เปิดคอร์สเรียนฟรี ผ่านเพจ ข่าวสารการเรียนรู้ เทรดหุ้นเป็นใน 23 วัน รับใบเซอร์หลังจบหลักสูตร


“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการให้บริการของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะการหลอกลวงทำใบขับขี่ผ่านออนไลน์ ชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ การคืนเงินจากมิจฉาชีพให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทั้งยังอาจสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นางสาวสุชาดา กล่าว 

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งเพจดังกล่าวถูกแอบอ้างโดยมิจฉาชีพหลอกให้ทำใบขับขี่ออนไลน์ 

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบก ขอย้ำอีกครั้งว่า  การทำใบขับขี่ทุกประเภทต้องดำเนินการด้วยตนเองที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น และอย่าให้ข้อมูลบัตรประชาชนหรือเอกสารสำคัญกับบุคคลอื่น เพราะเสี่ยงถูกนำข้อมูลไปใช้ก่อคดีต่าง ๆ หรือใช้แอบอ้างทำธุรกรรมผิดกฎหมายได้ หากผู้ใดพบเห็นการกระทำในลักษณะนี้ สามารถแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือ โทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่

| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

| Line ID: @antifakenewscenter

| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand

| X : @AFNCThailand

| TikTok : @antifakenewscenter

| IG : afnc_thailand/


ข่าวที่เกี่ยวข้อง