พายุไต้ฝุ่นจ่อถล่มฮ่องกง เตรียมปิดสนามบิน 36 ชม. ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ฤดูพายุปีนี้ ฮ่องกงต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” กำลังเคลื่อนตัวเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว พายุลูกนี้ไม่เพียงสร้างความวิตกกังวลต่อประชาชน แต่ยังทำให้หน่วยงานด้านการคมนาคมและความปลอดภัยสาธารณะต้องเร่งเตรียมมาตรการรับมืออย่างเข้มงวดที่สุด
กรมอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงได้ออกสัญญาณเตือนลำดับที่ 1 และเตรียมยกระดับเป็นหมายเลข 3 และ 8 ในเวลาอันใกล้ ซึ่งหมายถึงความรุนแรงที่จะกระทบโดยตรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน สนามบินนานาชาติฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย กำลังพิจารณามาตรการพิเศษในการระงับเที่ยวบินทั้งหมดนานถึง 36 ชั่วโมง ตั้งแต่เย็นวันอังคารถึงเช้าวันพฤหัสบดี เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ แม้จะยังไม่ได้ยืนยันการปิดสนามบินอย่างเป็นทางการ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงระดับความรุนแรงของพายุครั้งนี้
ในด้านการเดินทาง สายการบินหลายแห่งประกาศยกเลิกเที่ยวบินล่วงหน้า ขณะที่ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟรางเบาและเส้นทางกลางแจ้งของ MTR จะหยุดให้บริการหากมีการยกระดับสัญญาณเตือนสูงกว่าเลข 8 นอกจากนี้ ทางการยังเร่งติดตั้งประตูน้ำในสถานีรถไฟและศูนย์การค้า รวมถึงตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อลดความเสี่ยงจากลมแรง
สิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้กันคือคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) ซึ่งนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงถึง 3.5–5 เมตรในบางพื้นที่ คล้ายกับเหตุการณ์ไต้ฝุ่นฮาโตะในปี 2017 และมังคุดในปี 2018 ที่สร้างความเสียหายหนักต่อชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะพื้นที่อย่างไท่โอ เฮงฝ่าชวน และหมู่บ้านในตุนเหมิน
เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าฮ่องกงในฐานะเมืองท่าระดับโลกต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเตรียมพร้อมของรัฐบาลและประชาชนจึงเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด ไม่เพียงเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินในวันนี้ แต่ยังเพื่อสร้างบทเรียนสำคัญสำหรับการรับมือภัยพิบัติในอนาคต
ท้ายที่สุด ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซาคือบททดสอบที่ตอกย้ำให้เราเห็นว่ามนุษย์ยังคงเปราะบางต่อพลังของธรรมชาติ แต่ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ ความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการตระหนักรู้ถึงความเสี่ยง เราอาจเปลี่ยนวิกฤตครั้งนี้ให้กลายเป็นโอกาสในการสร้างระบบป้องกันภัยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องเมืองและประชาชนจากพายุที่อาจรุนแรงกว่านี้ในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
