เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิ เริ่ม "ถืออาวุธ" ลาดตระเวนในดี.ซี.แล้ว

เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิ หรือ เนชันแนล การ์ด (National Guard) เริ่มถืออาวุธลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงวอชิงตันดี.ซี.แล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หลังจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์มีรายงานว่า พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้อนุมัติคำสั่งการถืออาวุธดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปราบปรามอาชญากรรมในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยออกมาประกาศว่าเมืองหลวงของสหรัฐฯ ไม่ปลอดภัย 

คณะทํางานร่วม-ดีซี กล่าวในแถลงการณ์ยืนยันว่า แม้เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิจะได้รับอนุญาตให้ถืออาวุธและใช้กำลังได้ระหว่สงการลาดตระเวนรอบเมือง แต่ก็เฉพาะในกรณีที่ตอบสนองต่อภัยคุกคามรุนแรงถึงชีวิตหรือทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ระบุชื่อนายหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์สว่า เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิ ได้ถืออาวุธประเภท ปืนพก M17 และ ปืนไรเฟิล M4 

แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าไม่มีอาชญากรรมและไม่มีเหตุฆาตกรรมในดี.ซี.เพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่เขาส่งทหารเข้าควบคุม นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าเขาอาจส่ง เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิเข้าไปควบคุมอาชญากรรมที่เมือง “บัลติมอร์” ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดประจำรัฐแมริแลนด์ หลังจากที่เขาได้ปะทะคารมกันกับ เวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ที่ออกมาวิจารณ์แนวทางการปราบปรามเหตุอาชญากรรมของทรัมป์ในลอสแอนเจลิสว่า “ขาดความเข้าใจและไม่สนใจความรู้สึกของผู้คนเลย” พร้อมกับเชิญให้ทรัมป์ ไปร่วมการตรวจตราความปลอดภัยในเมืองบัลติมอร์ ซึ่งทรัมป์ได้ตอบโต้กลับว่าหากมัวร์ต้องการความช่วยเหลือเช่นเดียวกับ แกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาก็ยินดีที่จะส่งทหารไปช่วยควบคุมเหตุอาชญากรรมในเมืองบัลติมอร์ ที่จะช่วยให้จัดการกับเหตุอาชญากรรมได้อย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งประกาศว่าเขากำลังพิจารณาส่งกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิ ไปประจำการที่นครชิคาโก และ นครนิวยอร์ก เช่นเดียวกับที่กรุงวอชิงตันดี.ซี.ที่ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่จากกองกำลังดังกล่าวมากกว่าพันคนกำลังลาดตระเวนอยู่ทั่วเมือง