รีเซต

สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 2 ราย หายกลับบ้านแล้ว 3 ราย

สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 2 ราย หายกลับบ้านแล้ว 3 ราย
มติชน
1 เมษายน 2563 ( 17:11 )
146
1
สมุทรสาครพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 2 ราย หายกลับบ้านแล้ว 3 ราย

สมุทรสาคร-พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 2 ราย หายกลับบ้านแล้ว 3 ราย

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร ณ วันที่ 01 เมษายน 2563 ว่า ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2563 ถึงปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวรวม 14 ราย ในจำนวนนี้รักษาตัวหายกลับบ้านได้แล้ว 3 ราย ส่งต่อรักษาที่อื่นตามความประสงค์ของผู้ป่วย 1 ราย และยังคงเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์ พยาบาลทั้ง 3 โรงพยาบาลอีก 10 ราย แบ่งเป็นโรงพยาบาลสมุทรสาคร 4 ราย โรงพยาบาลกระทุ่มแบน 4 ราย และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วันอีก 71 ราย ซึ่งสถานการณ์นั้น แม้การรักษาผู้ป่วยจนหายกลับบ้านได้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่จำนวนผู้ที่ต้องเฝ้าระวังก็มีมากขึ้นในทุกวัน ดังนั้นทางจังหวัดสมุทรสาครโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร จึงต้องมีการออกประกาศบังคับใช้มาตรการต่างๆ มาเพิ่มเติมเป็นระยะๆ จากการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงในแต่ละวัน เพื่อให้การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านนพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครนั้น จากเมื่อวันที่ 31 มีนาคม มาจนถึงวันที่ 1 เมษายน พบเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย เป็นรายที่ 13 และ รายที่ 14 พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสมุทรสาครทั้งสองคน โดยในรายที่ 13 เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 20 ปีเศษ มีประวัติเป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะมีคุณพ่อเป็นผู้ป่วยโควิด-19 อยู่แล้ว ส่วนรายที่ 14 เป็นผู้ป่วยที่พบในจังหวัดนนทบุรี แต่เนื่องจากมีประกันสังคมอยู่ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จึงขอเข้ารับการรักษาตัวตามสิทธิ์ประกันสังคม ส่วนประวัติความเสี่ยงของรายนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากมีแฟนทำงานสถานบันเทิงแล้วตรวจพบเชื้อ ด้านตัวคนไข้ก็ตรวจพบเชื้อในเวลาต่อมา ซึ่งอาการของผู้ป่วยทั้ง 2 คนนั้นค่อนข้างดี ไม่มีความรุนแรงอะไรมากนัก เพียงแต่ตรวจแล้วพบเชื้อเท่านั้น ด้านอาการของผู้ป่วยรายอื่นๆ นอกจากผู้ป่วยรายที่ 10 ที่ติดเชื้อจากการสัมผัสกับชาวมาเลเซีย แล้วเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสมุทรสาครจนสามารถกลับบ้านได้แล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม นับเป็นคนที่ 3 ที่สามารถกลับบ้านได้นั้น ขณะนี้รายอื่นๆ อาการปกติคงที่ดี ไม่มีความผิดปกติใดๆ

นพ.อนุกูล กล่าวต่อว่า โรคนี้มีความรุนแรงไม่มากแต่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ การติดต่อที่เป็นไปได้ง่าย และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนป้องกันเนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันกักตัวเองอยู่กับบ้าน และปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดสมุทรสาครอย่างเคร่งครัด ส่วนการประกาศของทางจังหวัดสมุทรเรื่องการบังคับใช้หน้ากากอนามัยนั้น ก็จะสอดคล้องกับโรงพยาบาลทุกแห่ง ที่ให้ผู้ป่วยและญาติต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มารับบริการเช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง