รวบแก๊งหลอกรักออนไลน์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้( 26 พ.ย.63) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 แถลงการณ์จับกุมแก๊ง หลอกรักออนไลน์ หรือ Romance Scam หลังตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 จับกุมตัวได้ที่จังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย นางสาววิภาวดี อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก และนางสาวกัลย์สุดา อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า พฤติการณ์ในการจับกุม ในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือน พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เกิดเหตุผู้เสียหายได้มีการถูกหลอก โดยการติดต่อแชทสนทนาผ่านสื่อลังคมขอนไลน์ หลากหลายรูปแบบ อาทิ What app, Instragram, Facebook,Hang out, We chat, Mai กับบุคคลที่อ้างตนเป็นชาวต่างชาติทั้งเพศชายและหญิง โดยจะมีการใช้ไปรไฟล์ที่หน้าตาดีน่าเชื่อถือ จนกระทั่งมีความสนิทสนมเชื่อใจกันจากการแชทสนทนา และได้มีการนัดหมายที่จะเดินทางมาพบผู้เสียหายที่ประเทศไทย
เมื่อถึงวันนัดหมายที่จะเจอกันทางบุคคลที่อ้างตนเป็นชาวต่างชาติ จะแชทมาแจ้งว่าตนถูกกักตัวที่ ด่านตม. หรือ สิ่งของที่จัดส่งมาให้นั้นจะต้องเสียภาษีที่ศุลกากรก่อน ขอให้ผู้เสียหายดำเนินการโอนเงินชำระให้ต่าน ตม. หรือ ด่านศุลกากร ให้ก่อนแล้วจะคืนเงินให้ภายหลังตอนเจอกัน จากนั้นจะมีบุคคลอ้างตนเป็น เจ้าหน้าที่ ตม. หรือ เจ้าหน้ที่ ศุลกากร หรือ ทนายความ โทรหาผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่นสื่อสังคมออนไลน์ของผู้เสียหาย และหากไม่โอนเงินจ่ายค่าปรับให้บุคคลต่างชาติดังกล่าว จะถูกจับกุมดำเนินคดี หรือ หากไม่จ่ายค่าภาษีสิ่งของนั้นจะต้องถูกยึด และได้มีการแจ้งเลขบัญชีธนาคารให้กับผู้เสียหายผ่านทางการสนทนา จนผู้เสียหายหลงเชื่อและได้มีการให้โอนเงินให้กับกลุ่มดังกล่าวจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้นหากผู้เสียหายติดต่อกับชาวต่างซาติผ่านการแชทสนทนาอยู่ ก็จะมีการหลอกให้โอนเงินค่าต่างๆ จนผู้เสียหายติดต่อบุคคลชาวต่างชาติไม่ได้อีกจนกระทั่งได้มาแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า บุคคลที่หลอกแชทสนทนานั้น แท้จริงจะเป็นการหลอกแชทมาจากกลุ่มชายผิวดำชาวแอฟริกา นอกประเทศที่มีการปลอมโปรไฟล์เป็นบุคคลหน้าตาตี จนเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีที่ได้แจ้งกับผู้เสียหาย จนเกิดความเสียหายดังกล่าว โดยกลุ่มเลขบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำผิดดังกล่วจะถูกจัดหา และรวบรวมโดยคนไทยในประเทศ ซึ่งน.สวิภาวดี จะเป็นผู้ดำเนินการในการรวบรวมบัญชี และดำเนินการทางธุรกรรมโอนงินต่อไปให้ กับกลุ่มคนร้ายที่อยู่ประเทศมาเลซีย (คนดำชาวแอฟริกและภรรยาชาวไทยที่อยู่ในมาเลเซีย)
โดยน.ส.วิภาวดี จะได้ค่าส่วนแบ่งจากการดำเนินการโอนงิน ต่อให้กลุ่มคนร้ายดังกล่าว ซึ่งเมื่อเงินถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารอื่นเป็นทอดๆแล้ว เงินจะถูกถอนออกในต่างประเทศ ( มาเลเซีย , อินโดนีเซีย ) ต่อมาเจ้าพนักงานงานตำรวจ กกสส.1 บก.สส.ภ.4 ได้รบรวมพยานหลักฐานและสามารถจับกุมตัว น.ส.กัลย์สุดา (เจ้าของบัญชี)และ นส. วิภาวดี ผู้รวบรวมบัญชีและดำเนินการทางธุรกรรมโอนเงิน ให้กับกลุ่มคนดำชาวแอฟริกา และคนไทยในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้ขณะหลบหนีในพื้นที่ จ.พิษณุโลก จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อจากการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวทั่วประเทศ เกิดความเสียทายมากกว่า 10 ล้านบาท
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE