รวบแล้วนักโทษหนีจากรพ.ในสมุทรปราการ จนมุมตลาดโรงเกลือ ก่อนหนีไปเขมร
รวบแล้วนักโทษชายหนีจากโรงพยาบาลในสมุทรปราการ เข้าชายแดนสระแก้ว สุดท้ายจนมุมที่หน้าร้านสะดวกซื้อตลาดโรงเกลือ หลังเจ้าหน้าที่ไล่ล่าตลอดคืน
กรณี น.ช.ประสิทธิ์ ศรีลารัตน์ อายุ 54 ปี นักโทษเด็ดขาดชั้นต้องปรับปรุง เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ หลบหนีออกจากโรงพยาบาลในจ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา และยังลักมือถือของผู้ป่วยเตียงข้างกันไปด้วย โดยกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลบันทึกภาพขณะน.ช.ประสิทธิ์ เดินถือตะกร้าออกจากห้อง ก่อนจะหลบหนีไปทางจ.สระแก้ว นั้น
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.สระแก้ว ได้รับการประสานงานจากเรือนจำ จ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสมุทรปราการ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์มือถือพบว่า หลบหนีมาในพื้นที่ชายแดน ต.หันทราย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทำให้ในช่วงช่วงบ่ายและค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังร่วมตำรวจท้องที่จำนวน 30 นาย ตั้งด่านและตรวจค้นพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นบ้านเพื่อนของนักโทษรายนี้
โดยที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ เผยแพร่ภาพและข้อมูลของ น.ช.ประสิทธิ์ พร้อมระบุว่า ผู้พบเห็นแจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การจับกุม มีเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมประชาสัมพันธ์ตำหนิรูปพรรณสัณฐานคนร้าย อาทิ นิ้วชี้ขวาขาด 1 ข้อ รอยสักที่นิ้วชี้ขวารูปมังกร แขนขวารูปยันต์อักขระไม้เลื้อย
พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ว่า ได้รับรายงานจากกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสระแก้ว ว่า นักโทษประสิทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่จากเรือนจำกลางสมุทรปราการ จับกุมตัวได้ ขณะเดินอยู่แถวๆหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาตลาดโรงเกลือ ใกล้กับทางโรงไฟ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะหาช่องทางลักลอบข้ามชายแดน ออกไปฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา
โดยทางเจ้าหน้าที่จากเรือนจำกลางสมุทรปราการ รับแจ้งจากชาวบ้านในการขอรางวัลนำจับ 50,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมนักโทษประสิทธิ์ เมื่อเวลาประมาณตี 5 ของวันนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวกลับไปยังเรือนจำกลางสมุทรปราการทันที
ขณะเดียวกันกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่านักโทษรายนี้ขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน เมื่อตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่แล้ว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ขณะที่ประวัติ นักโทษชายประสิทธิ์ ศรีลารัตน์ อายุ 54 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.ระยอง ต้องโทษในคดีลักทรัพย์ ท้องที่สถานีตำรวจภูธรสมุทรปราการ มีโทษจำคุก 2 ปี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยคดีจำคุกในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการต้องโทษเป็นครั้งที่ 4 แล้วในท้องที่จังหวัดระยอง สมุทรปราการ และเมืองพัทยา จ.ชลบุรี