รีเซต

สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 10 ตุลาคม 2568

สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 10 ตุลาคม 2568
TNN ช่อง16
10 ตุลาคม 2568 ( 15:33 )
20

สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 10 ตุลาคม 2568

กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ณ เวลา 15.00 น. พบว่าทั้งสองฝั่งยังคงมีการรวมตัวของประชาชนและมวลชนในหลายจุด โดยหน่วยทหารไทยได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและเดินหน้าปฏิบัติการตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ที่ บ้านหนองจาน ฝ่ายไทยมีประชาชน พ่อค้าแม่ค้า และสื่อมวลชนรวมราว 200 คน รวมตัวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อปกป้องอธิปไตย ขณะที่ฝั่งกัมพูชามีมวลชนเคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่ตรงข้าม หน่วยทหารไทยได้จัดกำลังระวังป้องกันแนวในอย่างเข้มงวด

ส่วน บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายไทยมีมวลชนบางส่วนในพื้นที่แต่ยังไม่มีเหตุการณ์สำคัญ ขณะที่ฝั่งกัมพูชาพบประชาชนและสื่อมวลชนราว 100 คนกระจายรอบหมู่บ้านเปรยจัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเขมรคอยอำนวยความสะดวกและควบคุมพื้นที่

กองทัพภาคที่ 1 ได้ส่ง กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) 1 กองร้อย เข้าดูแลพื้นที่ พร้อมจัด ชุดตรวจค้นวัตถุระเบิด 4 ชุด และใช้รถถากถางหุ้มเกราะ D5 ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้ได้พื้นที่ปลอดภัยกว่า 38,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ IOT (Inspection Observation Team) ประจำราชอาณาจักรไทยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวชายแดน รับทราบสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง โดยกองทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายไทยและหลักสากล เพื่อจัดการกรณีที่ชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย

สำหรับข้อท้วงติงจาก กองพลทหารราบที่ 51 ของกัมพูชา ที่ขอให้ไทยระงับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่หนองจานและหนองหญ้าแก้ว โดยอ้างว่าละเมิดข้อตกลง GBC (General Border Committee) นั้น กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท

ขณะนี้ กองกำลังบูรพา ฝ่ายปกครอง และหน่วยควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ทั้งสองแห่งอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่มีเหตุการณ์ใช้กำลังหรือปะทะเกิดขึ้น พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 อยู่ในพื้นที่เพื่อติดตามการปฏิบัติและกำกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่ากองทัพไทยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในห้วงเวลาที่เหมาะสม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง