จีนยอมปิด TikTok ในสหรัฐ ดีกว่าเสียหน้ายอมขาย

วันนี้ (12 ก.ย.63) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลจีนจะขอยอมปิดกิจการแอ็พ “TikTok” ในสหรัฐไปเลย ดีกว่าที่จะต้องเสียหน้า เพราะยอมสยบต่อแรงกดดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บีบบังคับให้บริษัทของจีน ต้องขายทิ้งกิจการและทรัพย์สินทั้งหมดของติ๊กต็อกในสหรัฐ ให้แก่บริษัทของสหรัฐ

ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้คัดค้านอย่างเปิดเผย ต่อการที่บริษัท “ไบท์แดนซ์” ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก ถูกทรัมป์บังคับให้ต้องขายติ๊กต็อก ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นทำคลิปสั้นยอดนิยมของจีน ทั้งในสหรัฐและทั่วโลก

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ถ้าหากว่าไบท์แดนซ์สามารถบรรลุข้อตกลงขาย TikTokในสหรัฐได้จริง รัฐบาลจีนอาจเข้าขัดขวาง โดยการบังคับใช้บัญชีสินค้าเทคโนโลยีส่งออกของจีน ที่จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน

โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา จีนเพิ่งมีการทบทวนบัญชีสินค้าเทคโนโลยีที่ส่งออกจากจีน ที่จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ของจีนก่อน จึงจะสามารถส่งออกได้ และ TikTok ก็เข้าข่ายเป็นสินค้าเทคโนโลยีในบัญชีนี้ 

ปฏิกิริยาจากจีนล่าสุดครั้งนี้ ออกมาหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งยื่นคำขาดซ้ำอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า จะไม่ยอมยืดเส้นตายการขาย TikTok ในสหรัฐ ไปจากเส้นตายวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้ และถ้าหากว่าการซื้อขายไม่สำเร็จภายในเส้นตายดังกล่าว TikTok จะต้องถูกปิดกิจการในสหรัฐตั้งแต่วันดังกล่าวทันที

ทั้งนี้ ไบท์แดนซ์กำลังเจรจาขาย TikTok ในสหรัฐ รวมไปถึงการขาย TikTok ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย กับบริษัทสหรัฐหลายเจ้า ได้แก่ ไมโครซอฟต์ , ออราเคิล และวอลมาร์ท ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากถูกทรัมป์ขีดเส้นตาย โดยราคาขาย TikTok อาจสูงถึง 25,000 - 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 775,000 - 930,000 ล้านบาท