BOE ชี้ความเสี่ยงการเงินอังกฤษพุ่ง จาก"ฟองสบู่ AI"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ระบุว่า ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากการประเมินมูลค่ากิจการที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อยู่ในระดับตึงตัว การปล่อยกู้ความเสี่ยงสูงให้บริษัทขนาดใหญ่ และพฤติกรรมการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลบางส่วนที่มีความเสี่ยงสูง

ในรายงานเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปี BOE ระบุว่า “ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินเพิ่มขึ้นในปี 2568… ความเสี่ยงระดับโลกยังอยู่ในระดับสูง และยังมีความไม่แน่นอนอย่างมีนัยสำคัญในแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคโลก โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การแตกเป็นเสี่ยง ๆ ของระบบการค้าและการเงินโลก และแรงกดดันในตลาดหนี้ภาครัฐ”

ทั้งนี้ แม้ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น แต่ BOE ได้ปรับลดข้อกำหนดเงินกองทุนของธนาคารใหญ่ในสหราชอาณาจักร และประเมินว่าระบบธนาคารอังกฤษยังมีเงินกองทุนแข็งแกร่ง ขณะที่ระดับหนี้ของภาคธุรกิจและครัวเรือนในประเทศโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ

BOE ระบุว่า ความตื่นตัวของนักลงทุนต่อปัญญาประดิษฐ์ได้ดันราคาหุ้นสหรัฐไปแตะระดับแพงที่สุดตั้งแต่ฟองสบู่ดอทคอม ขณะที่มูลค่าหุ้นในสหราชอาณาจักรแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกปี 2551

นอกจากนี้ ความเชื่อมโยงที่ลึกขึ้นระหว่างบริษัท AI กับตลาดสินเชื่อ รวมถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงที่เพิ่มขึ้นระหว่างบริษัทเหล่านี้ อาจทำให้การปรับฐานราคาสินทรัพย์ส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงินได้มากขึ้น หากเกิดการปรับตัวลงของราคา”

BOE ยังชี้ถึงเหตุล้มละลายของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สหรัฐ First Brands และผู้ให้บริการไฟแนนซ์ Tricolor ซึ่งผู้ว่าการ Andrew Bailey ระบุเมื่อเดือนตุลาคมว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาที่ใหญ่กว่ากำลังก่อตัว

ขณะเดียวกัน หน่วยงานยังเตรียมดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) แบบใหม่ โดยเน้นความเปราะบางของระบบ private markets

BOE ระบุว่า “สถานการณ์นี้สะท้อนความจำเป็นที่ผู้เล่นในตลาดต้องเสริมความเข้มแข็งของระบบบริหารความเสี่ยง เพื่อให้พร้อมรับช็อกที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงความผันผวนที่แตกต่างจากรูปแบบในอดีต”