เกาหลีใต้ชูนโยบายทำงาน 4.5 วัน หวังปรับสมดุลชีวิต

อี แจ-มยอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้จากพรรคประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นสายเสรีนิยม ได้ชูนโยบายหาเสียงที่กำลังถูกกล่าวขานถึงาก นั่นคือ การปรับชั่วโมงการทำงานให้เหลือ 4.5 วันต่อสัปดาห์ หรือ จาก 40 ชั่วโมง ให้เหลือ 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยที่ไม่ลดค่าจ้าง - หวังเอาใจกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ต้องการสร้างสมดุลการใช้ชีวิต หรือ work-life balance อีกทั้งยังตั้งเป้าให้ค่าเฉลี่ยชั่วโมงการทำงานต่อปีของเกาหลีใต้ ลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD หรือกลุ่มประเทศเพื่อความร่วมมือกละการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ภายในปี 2030
ส่วนพรรคพลังประชาชน ของอดีตประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล เสนอมาตรการไม่ลดชั่วโมงการทำงานรวม แต่เปลี่ยนให้ทำงานเพิ่มวันละ 1 ชั่วโมง ในวันจันทร์-พฤหัสบดี เพื่อให้ได้หยุดครึ่งวันในวันศุกร์ โดยไม่บังคับใช้กับทุกบริษัท แต่เปิดทางให้ไปตัดสินใจกันเอง
นโยบายลดเวลาทำงาน ทำให้ภาคธุรกิจเริ่มแสดงความกังวล โดยเฉพาะต่อข้อเสนอของพรรคประชาธิปไตย โดยชี้ว่า การลดชั่วโมงทำงานโดยไม่เพิ่มผลิตผล จะยิ่งสร้างภาระให้ธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและเล็ก ที่เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน และมีต้นทุนเพิ่ม
อย่าไรก็ตาม ทางสหภาพแรงงานหลักของประเทศ ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ พร้อมชี้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง อย่าง SK Telecom, POSCO และ Samsung ต่างก็มีนโยบายลักษณะนี้อยู่แล้ว เช่น หยุดทุกวันศุกร์ เดือนละ 2 ครั้ง
จังหวัดคยองกี ได้เปิดโครงการนำร่อง สนับสนุนเงินให้บริษัทที่เข้าร่วมทดลองระบบทำงาน 4.5 วันต่อสัปดาห์ หรือ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเปลี่ยนผ่านจริงอาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี เช่นเดียวกับการเปลี่ยนจากทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน เป็น 5 วันในอดีต อีกทั้งต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างแข็งขัน เช่น เงินอุดหนุน หรือการลดภาษี ที่จะเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จนี้