สภ.เมืองอุบลฯจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ 3 ราย พร้อมยาบ้า 2,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.เมือง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ตามยุทธการ” พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ ” โดยจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ 3 ราย พร้อมยาบ้า 2,000 เม็ด ที่บริเวณริมถนนสาธารณะใกล้ศาลเจ้าปู่บ้านกระโสบ หมู่ที่ 4 ต.กระโสบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี แจ้งข้อกล่าวหาว่า ” ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย

ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 7 มิถุนายน พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลฯ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดของ นายวีระพล หรือเบนซ์ มุทระพัฒน์ อายุ25 ปี นัดส่งมอบยาบ้ากันที่ ริมถนนสาธารณะใกล้ศาลเจ้าปู่บ้านกระโสบ หมู่ที่ 4 ต.กระโสบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จึงนำกำลังชุดสืบสวน วางแผนซุ่มสังเกตุบุคคลต้องสงสัย ต่อมามีนายศุภณัฐหรือเจลาย เจริญ อายุ 25 ปี ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่จุดเกิดเหตุและได้หยิบสิ่งของลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวทำการตรวจค้นพบยาบ้า 1 มัด จำนวน 2,000 เม็ด

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศุภณัฐ หรือเจลาย เจริญ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายวีระพล หรือเบนซ์ มุทระพัฒน์ ให้มาหยิบยาบ้าที่จุดนัดหมายโดยติดต่อกับนายวีระพล หรือเบนซ์ มุทระพัฒน์ ผ่านแอพเฟซบุ๊ก จากนั้นนายศุภณัฐหรือเจลาย เจริญ ได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปที่ แมนชั่นแห่งหนึ่ง ห้องเลขที่ 23 ซอยซยางกูร 42 หมู่ 23 ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อขยายผลจับกุมตัวนายวีระพล หรือเบนซ์ มุทระพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้สั่งงานจากชาวลาว “เครือข่ายท้าววุท” ให้การว่า มีนายธวัชชัย หรือจอม ถวิลบุญ อายุ 31 ปีเป็นผู้สั่งซื้อยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ดจากตนเอง หลังจากนายศุภณัฐหรือเจลาย เจริญ มารับยาบ้าแล้วก็จะให้นำยาบ้าดังกล่าว ไปส่งมอบให้กับนายธวัชชัย หรือจอม ถวิลบุญ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตำรวจ จึงให้ นายศุภณัฐหรือเจลาย เจริญ โทรศัพท์ นัดกับนายธวัชชัย หรือจอม ถวิลบุญ อายุ 31 ปี เพื่อมาพบที่จุดนัดหมายที่บริเวณปากทางเข้ารีสอร์ทแห่งหนึ่ง ริมถนนสมเด็จ โดยมีนายธวัชชัย หรือจอม ได้ขับรถจักรยานยนต์ มาที่จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวจับกุม ตรวจคันตัวพบ ยาบ้า 2 เม็ดในกระเป๋ากางเกง จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และได้ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการ ทั้งหมด 7 รายการ โดยมีรถยนต์ 1 คัน ราคา 450,000 บาท รถมอเตอร์ไซค์ มูลค่า 90,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง มูลค่า 40,000 บาท ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 27,000 บาท รวมทรัพย์สินทั้งสิ้นมูลค่า 607,000 บาท