ตามดูชีวิตชาวบ้านบางกลอย หลังปล่อยตัวฐานรุกป่าต้นน้ำแก่งกระจาน

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 ชุดปฏิบัติการร่วมกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมหน่วยงานราชการและผู้เกี่ยวข้อง ได้นำตัวผู้บุกรุกป่าต้นน้ำแก่งกระจาน จำนวนทั้งสิ้น 85 คน  ซึ่งถูกดำเนินคดีจำนวน 22 คน และต่อมาได้นำตัวฝากขังศาลจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งชุดปฏิบัติการ ได้ดำเนินการในกรณีเด็กและเยาวชน ที่บิดามารดาหรือผู้ปกครอง ถูกดำเนินคดี นำส่งมอบให้กับญาติที่อยู่ ณ หมู่บ้านบางกลอย เป็นผู้ดูแลเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ 22 ผู้ต้องหา ศาลได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยให้ผู้ปกครองท้องที่คอยดูแลและกำหนดเงื่อนไขห้ามไม่ให้กลับขึ้นไปข้างบนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนจะถูกปรับครั้งละ 50,000 บาทและถอนประกัน 

ล่าสุดได้รับรายงานจาก นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า หลังคณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าพื้นที่บ้านโป่งลึก เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ชาวบ้านที่บุกรุกป่าต้นน้ำแก่งกระจาน 

โดย คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์     ในฐานะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบุรี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบุรี เป็นหน่วยงานที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสทุกประเภททั้งเด็กสตรีคนชราหรือแม้กระทั่งกลุ่มชาติพันธ์ในนาม One Home ของจังหวัด เพื่อติดตาม ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจต่อกรณีดังกล่าว 

ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจ ความไว้ใจต่อหน่วยงานราชการในกรณีที่เกิดขึ้น ได้ทำการตรวจเยี่ยมลูกของนายบิน่า เเละนางจันทรา ทองเกิด (ไม่อยู่บ้าน) นางจุฑามาศ ปลาดุก (พบที่บ้าน) นายศักดา ต้นน้ำเพชร (ไม่อยู่บ้าน)และได้ไปเยี่ยมบ้านนายนอแอ๊ะ มีมิ ปรากฏว่าไม่อยู่บ้าน 

จากการสอบถาม พบว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้านบางกลอยและสืบทราบว่าขณะนี้ได้รวมตัวกันอยู่ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง โดยมีกลุ่มเอ็นจีโอ จัดหาที่พักให้เพื่อเตรียมที่จะเดินเรื่องต่อรองอะไรบางอย่าง ซึ่งที่นั่นจะมีแกนนำชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง ส่วนหนึ่งคอยดูแลอยู่