สหรัฐฯ “ประกาศโละวัคซีนแอสตราเซเนก้า” ที่ตุนไว้ทั้งหมด 60 ล้านโดส
วันนี้ ( 27 เม.ย. 64 )เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่าตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐฯ จะส่งออกวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนก้า ที่มีอยู่ในสหรัฐฯ ทั้งหมด 60 ล้านโดส ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยรอให้ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA เสร็จสิ้นการตรวจสอบความปลอดภัยและคุณภาพก่อนส่งออก
ซากิระบุเหตุผลว่า รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถส่งออกวัคซีนของ AstraZeneca ได้ เพราะสหรัฐฯ มีวัคซีนต้านโควิดตัวอื่น ๆ มากพอ สำหรับฉีดให้แก่ชาวอเมริกันทุกคนแล้ว ได้แก่วัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Johnson & Johnson ไม่มีความจำเป็นต้องใช้วัคซีนของ แอสตราเซเนก้า อีกต่อไป ในการต่อสู้กับโควิด-19
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เก็บตุนวัคซีนของ แอสตราเซเนก้าทั้งหมดประมาณ 60 ล้านโดส ระหว่างรอการอนุมัติจาก FDA ให้ใช้ในสหรัฐฯ ได้
ยังไม่ชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะเลือกส่งออกวัคซีนของ แอสตราเซเนก้า ไปให้แก่ประเทศใดบ้าง แต่การแถลงของซากิครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เพิ่งต่อสายตรงถึงนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ซึ่งสถานการณ์กำลังวิกฤติหนักที่สุดในโลกจากการระบาดของโควิด-19 รอบสอง ไบเดนสัญญากับโมดีว่า สหรัฐฯ จะส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินไปให้แก่อินเดีย รวมถึงอ็อกซิเจน ความช่วยเหลือการรักษา รวมไปถึงวัคซีนต้านโควิดด้วย
ก่อนหน้านี้ แคนาดาและเม็กซิโก 2 ประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ได้แสดงความจำนง ขอแบ่งปันวัคซีน แอสตราเซเนก้า จากสหรัฐฯ ด้วย โดยสหรัฐฯ เคยระบุในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า จะส่งวัคซีนของ AstraZeneca ให้แก่แคนาดาและเม็กซิโกราว 4 ล้านโดส
การฉีดวัคซีนต้านโควิดในสหรัฐฯ นำหน้าประเทศอื่น ๆ ทั้งโลก ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุว่า ชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดอย่างน้อย 1 เข็มไปแล้ว มากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ ในขณะที่หลายประเทศในโลก กลับกำลังเผชิญกับการขาดแคลนวัคซีนต้านโควิด.