หล่มสักคันกั้นน้ำแตกกลางดึก ผญบ.ร้องขอความช่วยเหลือวุ่น หลังทะลักท่วมหมู่บ้าน ชั่วโมงเดียวเกือบ 80 ซม.
วันที่ 5 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุคันดินกั้นน้ำริมแม่น้ำป่าสัก ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านปากคลองแดง ต.บ้านไร่ อ.หล่มสัก โดยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังอบต.บ้านไร่ และทางอาสากู้ภัยในพื้นที่เพื่อเร่งให้การช่วยเหลืออพยพเด็กคนชราและผู้เจ็บป่วยติดเตียง ออกจากพื้นที่น้ำท่วมโดยเร่งด่วน เนื่องจากกระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านนอกจากไหลเชี่ยวกรากแล้วระดับน้ำยังเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว โดยทางอาสากู้ภัยรับแจ้งว่าแค่ระยะเวลาราว 1 ชั่วโมงระดับน้ำสูงเกือบราว 80 เซนติเมตร
ต่อมาทางอาสากู้ภัยในพื้นที่พร้อมชุดบรรเทาสาธารณภัย อบต.บ้านไร่ นำโดยนายเจษบดินทร์ วันทูล นายกอบต. ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ส่วนการอพยพทางชาวบ้านส่วนใหญ่ขอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตามในการเข้าสำรวจบริเวณคันกั้นน้ำแตกเป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเป็นเวลามืดและกระแสน้ำไหลทะลักไหลเชี่ยวกราก จนเรือท้องแบนไม่สามารถแล่นฝ่ากระแสน้ำเข้าไปได้
นายเจษบดินทร์ วันทูล นายก อบต.บ้านไร่ กล่าวว่า คันกั้นน้ำบริเวณนี้สูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ส่ออาการต้านกระแสน้ำในแม่น้ำป่าสักซึ่งไหลเชี่ยวและมีปริมาณมากไม่ไหว โดยชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นและอบต.พยายามระดมช่วยกันเสริมความมั่นคง แต่แม่น้ำป่าสักนอกจากไม่ลดลงแล้วยังเพิ่มปริมาณไม่หยุด ส่วนจุดที่คันกั้นน้ำแตกช่วงแรกชาวบ้านแจ้งว่าแตกทะลุกว้างราว 3 เมตร แต่แนวโน้มไม่ทราบจะแตกเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะกระแสน้ำแม่น้ำป่าสักไหลแรงมาก
“ในช่วงเช้านี้เราก็คงจะต้องจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณจุดคันกั้นน้ำแตก ส่วนการซ่อมแซมคงต้องรอหลังน้ำลด แต่สิ่งจำเป็นเร่งด่วนคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อาจต้องอพยพชาวบ้านบางส่วนออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะแนวจุดที่คันกั้นน้ำแตก ส่วนพื้นที่น้ำท่วมเวลานี้เริ่มขยายไปยังหมู่บ้านอื่นๆแล้วเช่นกัน”นายเจษบดินทร์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางอบต. บ้านไร่ พร้อมชาวบ้านหมู่ที่ 2 ได้ระดมช่วยกันพยายามเสริมความมั่นคงและซ่อมแซมให้กับคันกั้นน้ำบริเวณดังกล่าวตั้งแต่เวลา 9.00 น ของวันที่ 4 ตุลาคมเป็นต้นมา โดยมีการนำเครื่องจักรรถแบ็คโฮเข้าซ่อมแซมด้วยหลังจากพบว่ามีน้ำไหลทะลุใต้คันดินออกมาโดยมพยายามปักเข็มเสริมความมั่นคง แต่ปรากฏว่าตันดินยังไม่สามารถต้านแรงน้ำได้อยู่ โดยมีน้ำยังไหลรอดออกมา หลังทางเจ้าหน้าที่อบต.ประเมินสถานการณ์แล้วว่า ไม่สามารถที่จะต้านไว้ได้ จึงเร่งขนย้ายเครื่องจักรออกจากพื้นที่บริเวณจุดคันดั้นน้ำแตก หลังจากนั้นไม่นานคันกั้นน้ำจุดดังกล่าวมีน้ำเริ่มรั่วซึมออกไม่หยุด จนทนแรงต้านกระแสน้ำไม่ไหม ทำให้คันดินแตกในเวลาต่อมา