รีเซต

สหราชอาณาจักร “ตื่นทอง” คนแห่ซื้อทองคำสูงสุดรอบ 14 ปี

สหราชอาณาจักร “ตื่นทอง” คนแห่ซื้อทองคำสูงสุดรอบ 14 ปี
TNN ช่อง16
11 พฤศจิกายน 2568 ( 10:58 )
8

นักลงทุนในสหราชอาณาจักรกลับมามีความเชื่อมั่นในทองคำเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จนระดับการเข้าซื้อทองคำพุ่งทะยานถึงระดับที่เคยเห็นเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์รุนแรงเท่านั้น และเป็นการเข้าซื้อทองคำที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 หรือสูงที่สุดในรอบ 14 ปี เกิดอะไรขึ้นบ้างกับปรากฎการณ์ “ตื่นทอง” ของคนในสหราชอาณาจักร

ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในทองคำของนักลงทุนทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนในสหราชอาณาจักรไม่ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนในทองคำมากเท่าไหร่นัก หลังราคาทองคำเมื่อปรับค่าเป็นเงินสกุลปอนด์สเตอร์ลิง สร้างสถิติใหม่เฉลี่ยรายเดือนที่สูงกว่า 3,000 ปอนด์เป็นครั้งที่ 15 ติดต่อกัน และยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

โดยข้อมูลจาก BullionVault ผู้ให้บริการตลาดซื้อขายทองคำชั้นนำของโลกระบุว่า หลังจากราคาทองคำแตะระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว ได้สร้างแรงดึงดูดให้กับนักลงทุนในอังกฤษเข้าซื้อทองคำเพิ่มสูงขึ้นถึง 29.8% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 แต่ถ้าหากนับรวมนักลงทุนในสหราชอาณาจักรทั้งหมด จะพบว่านักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพิ่มสูงขึ้นถึง 37.3% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 

สถานการณ์ตื่นทองของคนในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ดัชนี Gold Investor Index UK พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 โดยเพิ่มขึ้น 2.9 จุด มาอยู่ที่ระดับ 60.0 จุดในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ดัชนี Gold Investor Index UK นั้นจะอยู่ที่ระดับ 50.0 จุด หากจำนวนผู้ซื้อทองคำสุทธิเท่ากับกับจำนวนผู้ขายทองคำสุทธิของแต่ละเดือนเดือน โดยดัชนีนี้ UK เคยพุ่งสูงสุดที่ระดับ 72.4 จด ในเดือนกันยายน 2011 และกลับมาพุ่งสูงสุดอีกครั้งที่ระดับ 63.1 จุด ในเดือนมีนาคม 2020 และลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 47.3 จุด ในเดือนมีนาคม 2024 

นอกเหนือจากนั้น ความต้องการทองคำทั่วโลกได้พลิกกลับมาเป็นการซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดรวมการถือครองทองคำของลูกค้า BullionVault กลับมาอยู่ที่ 44.0 ตัน ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,300 ล้านปอนด์ 

ความต้องการทองคำทั่วโลก สะท้อนได้จากปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของ BullionVault เพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการล่มสลายของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Lehman Brothers ก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรงของวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลก โดยกว่า 90% เป็นนักลงทุนที่อาศัยอยู่ในยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ 

อีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนความต้องการลงทุนในทองคำคือเรื่องของเทคโนโลยี โดยตัวเลขจำนวนผู้อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรที่เริ่มใช้ฟินเทคในเวสต์ลอนดอนเป็นครั้งแรกก็พุ่งขึ้นถึง 68.3% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 ซึ่งสถานการรในตอนนั้น ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง เนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะของยูโรโซนลุกลามไปยังสเปน และอิตาลี พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สูญเสียอันดับเครดิตที่ "ปราศจากความเสี่ยง" และอังกฤษเผชิญกับเหตุจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 200 ปี 

นับตั้งแต่ BullionVault เปิดตัวเมื่อ 20 ปีก่อน บรรยากาศการลงทุนทองคำมักจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก ความวิตกกังวลจากชัยชนะการเลือกตั้งครั้งแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ และการระบาดของโรคโควิด-19 

แต่สถานการณ์ในปีนี้ กลับแตกต่างออกไป ความวิตกกังวลกับปัจจัยเศรษฐกิจถึงแม้ว่าจะมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ใช่ปัจจัยหลัก ที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นจนใกล้กับสภาวะฟองสบู่ แต่ส่วนสำคัญเกิดจาก FOMO Investor ที่เมื่อราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนจำนวนหนึ่งเกิดความกลัวว่าจะพลาดโอกาสได้ผลตอบแทนจำนวนมาก บวกกับแนวโน้มขาขึ้นที่แฝงอยู่ได้ส่งสัญญาณว่า ราคาทองคำอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

สิ่งที่แตกต่างออกไปในปัจจุบันคือ นักลงทุนสถาบันในฝั่งตะวันตกโดยรวมถือครองทองคำสำรองจำนวนมากจากการทยอยสะสสมในช่วงวิกฤตการณ์สองทศวรรษที่ผ่านมา จึงเกิดการเทขายทำกำไร และเข้าลงทุนใหม่ ในลักษณะของการเก็งกำไร ก็เข้าสู่จุดที่อยู่ในระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความต้องการเพียงสะสมเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นนักลงทุนสถาบัน เข้ามาเป็นผู้เล่นกับนักลงทุนรายย่อยด้วยอีกทาง 

และถึงแม้ว่าราคาทองคำจะอ่อนตัวลงเมื่อเร็วๆ นี้ และราคาเริ่มเกิดความผผันผวน แต่ราคาทองคำก็ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ก็ยังคงมีอยู่ เช่น ความต้องการทองคำของธนาคารกลาง และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ รวมถึงการเข้าซื้อ ETF ทองคำน่าจะยังคงเป็นทิศทางหลัก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีกในอนาคต 

สอดคล้องกับสภาทองคำโลกที่ระบุว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งแตะระดับ 1,313 ตันในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาล ขณะที่นักลงทุน ETF เพิ่มการถือครองทองคำอีกจำนวน 222 ตัน นับเป็นตัวเลขเงินที่ไหลเข้ารายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ความต้องการทองคำแท่ง และเหรียญยังคงแข็งแกร่งที่ 316 ตัน ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางซื้อทองคำ 220 ตัน เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่

ทองคำยังคงสร้างปรากฎการณ์อย่างต่อเนื่องไปทั่วทุกมุมโลก แต่สถานการณ์ในปัจจุบันที่มีผลประทบต่อราคาทองคำยังคงมีความอ่อนไหว และไม่แน่นอน ความต้องการทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ Real Demand หรือความต้องการจริง ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความต้องการทองคำในลักษณะของการเก็งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

ทองคำถึงแม้ว่าจะถูงมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นสินทรัพย์ที่เป็นกลาง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำก็ยังมีความเสี่ยง นักลงทุนควรที่จะประเมินสถานการณ์ และพิจารณาข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้นสินทรัพย์ปลอดภัย ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อเงินลงทุนได้เช่นเดียวกัน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง