“จีน” ขึ้นแท่นผู้นำโลกร้อน ในเวที COP30 อย่างสง่างาม แทนบทบาทที่ “สหรัฐฯ” เคยครอง

รอยเตอร์รายงานว่า บริเวณโถงทางเข้าการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อน COP30 ที่เมืองเบเลง ใจกลางป่าแอมะซอนของบราซิล ศาลาจัดแสดงของจีนขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า ดึงสายตาผู้ร่วมประชุมตั้งแต่แรกเห็น ขณะผู้บริหารหลายคนจากบริษัทพลังงานสะอาดรายใหญ่ของจีนผลัดกันนำเสนอวิสัยทัศน์ “อนาคตสีเขียว” เป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นักการทูตจีนทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อผลักดันให้การเจรจาภายใต้กรอบสหประชาชาติดำเนินไปอย่างราบรื่นและสร้างสรรค์ ซึ่งนี่เป็นบทบาทสำคัญที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของสหรัฐอเมริกา

รายงานระบุว่า จีนได้ “เปลี่ยนบทบาท” ในเวทีการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากผู้เข้าร่วมที่เคยค่อนข้างเงียบ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้เล่นตัวหลักใน COP30 ครั้งนี้ โดยสามารถดึงดูดความสนใจจากนานาชาติมากกว่าที่เคย

การขยับบทบาทของปักกิ่งเกิดขึ้นในจังหวะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเมื่อต้นปี และดำเนินแนวทางปฏิเสธปัญหาโลกร้อนเหมือนเดิม ส่งผลให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก ข้อตกลงปารีส อีกครั้ง แม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลกก็ตาม และปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมประชุม COP30 ทำให้สหรัฐฯ ขาดตัวตนบนโต๊ะเจรจาอย่างสิ้นเชิง

นักวิเคราะห์เตือนว่า การถอนตัวของสหรัฐฯ เท่ากับ “มอบพื้นที่สำคัญ” ให้จีน ซึ่งเป็นประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน ได้ขยายอิทธิพลด้านนโยบายและเทคโนโลยีสีเขียว รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้าของตนบนเวทีโลก

ภาพของจีนในปีนี้แตกต่างจากอดีตอย่างชัดเจน จากเดิมที่ศาลาของจีนมีขนาดเล็ก ที่นั่งน้อย และมีผู้สนใจจำกัด ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค แต่ใน COP30 ศาลาจีนถูกออกแบบให้ “โดดเด่นที่สุด” ใกล้ทางเข้าหลัก และอยู่ติดกับศาลาของบราซิลเจ้าภาพ โดยภายในยังมีการเสิร์ฟกาแฟยั่งยืนที่ปลูกในจีน พร้อมจัดแสดงของที่ระลึก ตุ๊กตาแพนด้า และสินค้าที่ดูหรูหรา ดึงดูดผู้ร่วมประชุมให้แวะเข้าไปชมการนำเสนอจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนและผู้บริหารบริษัทพลังงานรายใหญ่ของประเทศ

รอยเตอร์ระบุว่า ทั้ง “อันเดร คอร์เรอา ดู ลาโก” ประธานการประชุม COP30 และ “อานา เดอ โทนี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ COP30 ต่างกล่าวชื่นชมบทบาทของจีนในฐานะ “ผู้นำเทคโนโลยีพลังงานสะอาด” และกำลังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเจรจาในปีนี้

การปรากฏตัวอย่างแข็งแรงของจีน สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงเชิงอำนาจในเวทีแก้ปัญหาโลกร้อน ที่ครั้งหนึ่งเคยขับเคลื่อนโดยสหรัฐฯ แต่วันนี้จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่โลกจับตามองมากที่สุด