อสม.ทนไม่ไหว ตบเท้ายื่นหนังสือถึงพ่อเมือง ขอย้าย ผอ.รพ.หนองบัวลำภู
หนองบัวลำภู อสม. สุดอัดอั้นต้นใจ ตบเท้ายื่นหนังสือ พ่อเมือง นพ.สสจ. ที่หน้าศาลากลาง ย้าย ผู้บริหารระดับสูงโรงพยาบาล ทนพฤติกรรมไม่ไหว
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ตัวแทน อสม.จังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย นายอมรฤทธิ์ จิตรพันธุ์ถวิล ประธาน อสม.ตำบลหนองบัว พร้อมกับ สมาชิก อสม.ในพื้นที่ของตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ร่วม 300 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ร้องเรียนต่อ นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 0730 น.ท่วมกลางที่มีฝนตกลงเม็ดมาปรอย โดยกลุ่มของตัวแทน อสม.ที่เดินทางมาได้ถือป้ายมีข้อความโจมตีการทำงาน ข้อความที่ต้องการให้มีการย้าย และมีป้ายชื่อของ (นายแพทย์ประสาน ชัยวิรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวลำภู) ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลรายนี้ ซึ่ง สมาชิก อสม.ที่เดินทางมาได้มีการผลัดเปลี่ยนกันมาพูดถึงพฤติกรรมของ ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลที่ทำงานไม่โปร่งใส และต้องการให้ย้ายออกนอกพื้นที่เป็นการด่วนภายใน 24 ชั่วโมง
จนกระทั่งต่อมา ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้ นายเวียงชัย แก้วพินิจ รองผู้ว่าราชการลงมาพบกับกลุ่ม อสม.เพื่อรับหนังสือ แต่ทาง กลุ่มของ อสม.ทั้งหมดไม่ยอมต้องการที่จะยื่นหนังสือให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ยอมลงมา คณะของ อสม.จะขึ้นไปพบบนศาลางกลาง
ต่อ นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภูและ นายสมเจตน์ จึงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เดินทางมารับหนังสือ ทำให้ อสม.ปรบมือต้อนรับและส่งเสียงไชโยขอบคุณ หลังจากนั้น ตัวแทน นำโดย นายอมรฤทธิ์ จิตรพันธุ์ถวิล ประธาน อมส.ตำบลหนองบัว และนางพัชรินทร์ เศรษฐบดี ประธาน อมส.บ้านจิก พร้อมด้วยคณะได้เป็นตัวแทนมอบหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูและ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุถึงสภาพปัญหาของการบริหารงานของ ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาล มีทั้งหมด 10 ข้อ คือ
1.มีประวัติด่างพร้อยทำให้ชื่อเสียงของจังหวัดหนองบัวลำภู ที่เป็นเมืองแห่งคนดี น่าอยู่น่าเที่ยว
2.มีคำสั่งให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลยึดบัตรประชาชนของผู้ป่วยยากจน ที่มารักษาแล้วไม่มีเงินจ่าย จะคืนบัตรประชาชนให้ก็ต่อเมื่อนำเงินมาชำระคืนจนหมด ซึ่งหน่วยงานสังคมสงเคราะห์เป็นหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ ที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏจะมีนโยบายที่ไร้คุณธรรมเช่นนี้มาก่อน มุ่งเน้นเพียงแค่ตัวเงินเท่านั้น
3.ใช้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 หากำไรกับผู้ป่วย โดยเก็บคนค่าสงยา 100 บาทต่อราย หากไม่เต็มใจจ่ายจะไม่ให้บริการส่งยา ทั้งๆ ที่ อสม.ยินดีช่วยบริการส่งยาให้คนไข้
4.บังคับเรียกเก็บเงินสดจากผู้ประสบภัยทางรถยนต์ ทั้งๆ ที่ ในระบบการเรียกเก็บทางโรงพยาบาลจะดำเนินได้
5.ขาดความโปร่งใสในโครงการปันสุขโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ที่อาศัยสถานการณ์ การระบาดของโรคโควิด 19 สร้างภาพให้ตนเองและเป็นเหตุให้ อสม.ต้องมาแบกทุกข์ ควักเงินส่วนตัวซื้อของมาปันสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่มายืนตากแดดรับแจกของ
6.เป็นคนไร้มษุษยธรรม โดย สั่งมิให้ ผลิตอาหารให้คนไข้ติดเตียง ให้ผู้ป่วยจัดหาเองในราคาแพงกว่าซื้อจากโรงพยาบาล
7.เป็นบุคคลที่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานและศรีความเป็นมนุษย์
8.เป็นผู้ที่ทำลายระบบ PCC (primary Care Clutter) โดยมีนโยบายย้ายที่แออัด เอาคนไข้จาก โรงพยาบาลหนองบัวลำภู มารักษาที่ PCC และหลอกลวงว่า มีความพร้อมทั้งเอกซเรย์ เจาะเลือด แต่ไม่เป็นความจริง โกหกประชาชน ทำให้คนไข้ต้องเดินทางไปมา ระหว่างโรงพยาบาลหนองบัวลำภู กับ PCC และยังทำให้ PCC เสียการทำงานเชิงรุกในชุมชนกับประชาชน เพราะต้องมาให้บริการคนไข้จากโรงพยาบาล
9.ทำลายระบบหมอประจำบ้าน ระหว่างเจ้าหน้าที่ กับ อสม.ที่ปฏิบัติงานให้ประชาชนในชุมชน
10.การโยกย้ายเจ้าหน้าที่ โดยใช้อำนาจหน้าที่ตามใจชอบ ซึ่ง ส่งผลกระทบกระเทือนต่อสุขภาพประชาชนที่เป็นผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่สามารถที่บริหารงานบริการประชาชนได้ และมีพฤติกรรมการทำอันเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการฉ้อราชบังหลวง และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ไม่มีธรรมาภิบาล จึงขาดคุณสมบัติจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลอย่างชัดเจน
ซึ่งหลังจาก มอบหนังสือร้องเรียนดังกล่าวแล้ว กลุ่ม อมส.และตัวแทน จึงได้เดินทางกลับ ทางด้าน นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว กล่าว่า เรื่องนี้ต้องให้เป็นเรื่องของ ทางด้าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ เพราะถือว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง การสั่งการในการดำเนินการต้องเป็นเรื่องของระดับปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เรื่องนี้จะได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว นำเรียนผู้บังคับบัญชาต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องของการย้ายนั้น หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วก็จะรายงานไปยังปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อไป เบื้องต้นก็ยังไม่ได้รับทราบข้อมูลที่รายงานมาเป็นหนังสือของทางราชการมา ก็จะรอจากคณะกรรมตรวจสอบก่อน
นายอมรฤทธิ์ จิตรพันธุ์ถวิล ประธาน อสม.หนองบัวลำภู แกนนำของ อสม.ที่เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ กล่าวว่า สร้างปัญหามาแล้ว 6 เดือน ไม่ได้สร้างผลงานดีเด่น มีแต่สร้างปัญหาให้กับประชาชน เก็บเงิน 30 บาท จาก อสม.ทั้งที่ อสม.ได้รักษาฟรี เก็บเงินจากผู้ประสบภัยจากรถเอาเงินสด ทั้งที่ มี พรบ.คุ้มครองจากรถ ไม่ให้ประชาชนผู้ยากไร้ใช้สิทธิ์ในการสังคมสงเคราะห์ เก็บเงินสด ยึดบัตรประชาชน รถปันสุข ก็มีแต่รถให้ ไม่มีสิ่งของ อสม.ต้องมาเสียเงินซื้อ ไข่ ของต่างๆใส่รถไป เก็บเงิน 100 บาท ค่าส่งยาจากผู้ป่วยเรื้อรังใครไม่ให้ไม่จ่ายยาให้ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาอย่างมากที่เราถูกร้องเรียน ถูกบอกมาจากพี่น้องประชาชน ทำไมโรงพยาบาลถึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ การส่งคนไข้กลับมาโรงพยาบาลชุมชน ส่งมาส่งไปจนบางรายเกิดอาการชอล์กก็มี
นายแพทย์ประสาน ชัยวิรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวลำภู กล่าวว่า ไม่ได้แก้ตัว ผมก็เพิ่งทราบเรื่องเมื่อเช้า ในรายละเอียดยังไม่ทราบเลย เบื้องต้นคล้ายกับว่า มีการไปเก็บเงินหรือทำลายระบบสาธารณสุขที่ชาวบ้านเขายินดี เบื้องต้นผมขอชี้แจง ผมเติบโตมาจากทีมปฐมภูมิผมยึดถือว่า สุขภาพดีที่ปฐมภูมิ เบื้องตนจะให้คนในระดับรากหญ้าได้รับบริการดีเยี่ยม สุขภาพดีที่ปฐมภูมิตั้งแต่ปี 2552 เบื้องต้นจะต้องดูข้อมูลก่อน
“ส่วนในเรื่องที่มีการเรียกเก็บเงินค่าส่งยา เรื่องที่เราเป็นโรงพยาบาลของรัฐ ที่ดำเนินการส่งยาถึงบ้านเป็นโรงพยาบาลแรกๆ เลย เราเริ่มส่งตั้งแต่ปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2563 เราเริ่มส่งยาตั้งแต่ก่อนที่ สป.สช.จะเริ่มจ่ายเงินแทนประชาชน ในตอนนั้นเราคิดว่า ตั้งแต่ค่ารถ ค่าอาหารที่ประชาชนมารอเราที่โรงพยาบาล น่าจะอยู่ที่ 100-120 บาท เราก็มาคำนวณต้นทุน เราก็เลยขอเรียกเงินปลายทางจากประชาชน 100 บาท ทุกบัตรทุกสิทธิ์?แต่เมื่อ สป.สช.มาจ่ายเงินแทนประชน ในเดือน มีนาคม –เมษายน เราก็เลยว่าน่าจะของดเก็บ ตอนนี้ก็ขอไปดูข่าวก่อนว่า น้องๆในทีมงาน ลานเพลินส่งยาถึงไหนแล้ว” นายแพทย์ประสาน กล่าว
นายแพทย์ประสาน กล่าวอีก ส่วนที่มีการเก็บเงินและยึดบัตรประชาชน นั้นจะเป็น ในกลุ่มอุบัติเหตุที่ไม่มี พรบ.กลุ่มนี้ถ้าไม่มี พรบ.กลุ่มนี้ต้องชำระเงินเอง หรือ ใช้ พรบ.สองชำระเงินเอง และใช้สิทธิ์กองทุนประกันผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งทั้ง 3 กองทุนนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่เคยทำมาก่อน ส่วนนี้ ก่อนที่ตัวเองจะมารับตำแหน่งใหม่ ทำให้เราสูญเสียรายได้ 1-1.5 ล้านบาท กรณียึดบัตร เป็นการเข้าใจผิด กรณีที่ยึดบัตรประชาชนไว้นั้น เขาไม่มีญาติมาติดต่อเลย จำเป็นจะต้องส่งต่อไป โรงพยาบาล ต่างจังหวัดเช่น อุดรธานี เพื่อผ่าตัดสมอง และจำเป็นต้องรอญาติมาติดต่ออีกครั้งหนึ่ง และ กรณียึดบัตรอีกกรณีหนึ่งนั้นก็ยอมรับว่า มีส่วนจริงอยู่บางส่วน เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ ในระดับปฏิบัติมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน คือ คน ไข้ที่รักษาเรียบร้อยแล้วก็ติดหนี้ เพื่อจะขอกลับบ้าน จากนี้ เราจะไม่มีการยึดบัตรใดๆทั้งสิ้น แต่ในกรณีที่ไม่มีเงินจ่ายก็ต้องทำสัญญา ค้างชำระไว้ตามกฎหมาย โดยคืนบัตรประชาชนให้ทุกราย เท่าที่ทราบประมาณ 40 % ของการป่วยมีการขอบัตรไว้จริงๆ ต้องกราบอภัยพี่น้องด้วยว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างผู้อำนวยการกับทีมปฏิบัติ
“ตอนนี้ก็ได้สั่งการไปว่า กรณีไม่มีเงินชำระจ่าย สามารถค้างชำระได้ โดยการทำเป็นสัญญา ก็เหมือนสัญญาใจ และก็คืนทุกสิทธิ์ทุกอย่างรวมบัตรด้วย ส่วนการบริหารเรื่องไม่มีคุณธรรมนั้นก็ยังไม่มั่นใจว่า ข่าวนี้คืออะไร ก็ขอสงวนไว้ก่อน ที่ผ่านมา โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ดำเนินการได้ดี ก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถทำงานได้ตามหน้าที่ ก็เลยบอกว่า กรณีที่ทำไม่ได้ ต้องมีเหตุผล พยาบาลหนึ่งคนต้องตรวจคนไข้ให้ได้ 5 คนต่อวัน ถ้าทำไม่ได้ต้องพิจารณาตนเอง ” นายแพทย์ประสาน กล่าว