รีเซต

กระบะเสียหลักเหินข้ามเลน หวิดชนเบนซ์หลวงปู่ศิลา คนขับหักหลบทัน เชื่อบารมีหลวงปู่

กระบะเสียหลักเหินข้ามเลน หวิดชนเบนซ์หลวงปู่ศิลา คนขับหักหลบทัน เชื่อบารมีหลวงปู่
มติชน
27 กรกฎาคม 2565 ( 23:19 )
155

เปิดคลิปกล้องหน้ารถบันทึกภาพรถกระบะเสียหลักเหินข้ามเลนกลางถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหารหวิดชนรถเบนซ์หลวงปู่ศิลา โชคดีคนขับหักหลบทัน เชื่อบารมีหลวงปู่

 

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ชนะวุธ อุทโท โพสต์ภาพและข้อความว่า “วีดีโอหน้ารถเบนซ์หลวงปู่ศิลา” เป็นคลิปจากกล้องหน้ารถของหลวงปู่ศิลา ขณะกำลังเดินทางจากกาฬสินธุ์ ไปงานเจริญพระพุทธมนต์ ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ แต่จู่ๆได้มีรถกระบะเสียหลักขับข้ามเลนมาเกือบจะพุ่งชนรถขอหลวงปู่ แต่ด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบได้ รถกระบะคันดังกล่าวหยุดได้ก่อนที่จะถึงรถหลวงปู่เพียงแค่นิดเดียว ทำให้คนขับรถหักหลบได้ทัน

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดพระธาตุหมื่นหินบ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งไม่พบหลวงปู่ศิลา เนื่องจากเดินทางกลับสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ที่จำพรรษาแล้ว จึงได้สอบถาม นายจารุวัฒน์ ภูมีเขียน อายุ 35ปี คนขับรถของหลวงปู่ศิลา โดยนายจารุวัฒน์ เล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้ขับรถเบนซ์ ทะเบียน 6กฐ 9571 กรุงเทพมหานคร พาหลวงปู่เดินทางออกจากจ.กาฬสินธุ์ได้ประมาณ 30นาทีวิ่งถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร พอมถึงจุดเกิด เหตุเวลาประมาณ 10.30น.ช่วงบริเวณบ้านภูเขาทอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ตนเองก็ได้คุยกับหลวงปู่ว่าบ้านภูเขาทองอยู่เขตอำเภอไหนหลังจากคุยกันเสร็จก็มีรถกระบะขับเสียหลักข้ามเลนมาตัดหน้ารถของหลวงปู่ศิลา คนขับรถและลูกศิษย์ต่างก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ศิลา

 

ตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจมากแต่หลวงปู่ก็บอกว่าให้ขับรถรีบๆโดยพูดเป็นภาษาอีสานว่าฟ้าวๆ แล้วตนก็ได้เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นจนรถพ้นจากรถกระบะคันดังกล่าวก่อนที่หลวงปู่จะถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีใครเป็นอะไรไหมแล้วในความโชคร้ายก็มีความโชคดีคือรถนำขบวนหลวงปู่เป็นรถกู้ภัยของมูลนิธิหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท-ฮงเต็กเสี่ยงตึ๊ง-อําเภอเขาวง หลังเกิดเหตุรถกู้ภัยจึงได้กลับรถเพื่อมาช่วยเหลือรถกระบะคันที่ประสบอุบัติเหตุและโชคดีที่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเเต่สภาพรถกระบะพังเสียหายทั้งคัน หลังจากที่เจ้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเเล้วก็ได้นำส่งโรงพยาบาลจากนั้นตนเองก็ได้พาหลวงปู่เดินทางมางานเจริญพระพุทธมนต์ต่อไป

 

นายจารุวัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์หลวงปู่ได้กำชับให้นำรถคันที่หลวงปู่ใช้เป็นพาหนะไปเช็คช่วงล่าง โดยเปลี่ยนโชครถทั้งหมดเพิ่งจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อวานและรถก็ยังไม่ได้มีการทดสอบเลยหลังจากที่ซ่อมเสร็จก็นำมาใช้งานในวันนี้พาหลวงปู่มางานเจริญพระพุทธมนต์ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์แล้วก็ไมาเจอกับเหตุการณ์การดังกล่าวสำหรับตนเองนั้นเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่จึงสามารถผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ เชื่อว่าเป็นปาฎิหารย์ เพราะในรถนั้นมีพระของหลวงปู่ตั้งอยู่หน้ารถที่เพิ่งนำมาวางไว้เมื่อเช้าเเละตนเองก็แขวนพระของหลวงปู่ติดตัวตลอดเวลาด้วย

 

สำหรับหลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท” แห่งสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีนามเดิมชื่อ ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ.2488 เป็นพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน มีวัตรปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาปัจจุบัน สิริอายุ 76 ปี พรรษา 55 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อครั้งอายุ 15 ปี ณ วัดธาตุประทับ และอุปสมบท สังกัด มหานิกาย เมื่อปี พ.ศ.2509 ณ วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด โดยพระสิริวุฒิเมธี (เจ้าคณะ จ.ร้อยเอ็ดสมัยนั้น) หลวงปู่พระมหาศิลา ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค รับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เมื่อปี พ.ศ.2515 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนที่ รร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ดและรับหน้าที่เป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ในการลงอุโบสถของคณะสงฆ์ตลอดมา

 

เมื่อแตกฉานด้านปริยัติแล้ว หลวงปู่พระมหาศิลา ได้จาริกแสวงบุญ ปลีกวิเวกไปหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ชัยภูมิได้เดินธุดงค์ ป่า ณ ภูเขา อ.สังคม จ.หนองคาย สู่ ภูเขาควาย สปป.ลาว ในปี พ.ศ.2517 เดินทางไปกับหลวงพ่อบ้านชาติ วัดบ้านชาติ จ.ร้อยเอ็ด (มรณะภาพแล้ว)ได้พบกับครูบาอาจารย์มากมาย เช่น หลวงปู่ทองมา ถาวโร , หลวงปู่มหาบุญมี สิรินธโร, หลวงปู่ลี กุสลธโร และเป็นสหธรรมมิกกับครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงพ่อสมาน ธัมรักขิตโต , หลวงปู่หนู อินทวัณโณ, หลวงปู่สมสิทธิ์ รักขิสีโล, หลวงปู่ล้อม สีลสังวโร

 

หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจาก สปป ลาว หลายฉบับ ศึกษาจนแตกฉาน

 

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ซึ่งเคารพนับถือท่านมาก ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏีถวาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง