สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด ก่อนเมืองอู่ฮั่น
ข่าววันนี้ นักระบาดวิทยาสหรัฐฯ ยืนยัน กรณีที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า พบการระบาดในสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีรายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการจริง
พบโควิดในสหรัฐฯ ”ต้นเดือนธันวาคม 2019"
ดร. เดนนิส คาร์โรล อดีตผู้อำนวยการ ฝ่ายโรคระบาดและภัยคุกคาม แห่งองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ USAID ซึ่งเป็นนักระบาดวิทยาแนวหน้าของสหรัฐฯ ออกมายืนยันแล้ว กรณีที่มีผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ที่บ่งชี้ว่า เชื้อโควิด-19 อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นทางการ
รายงานผลการวิจัยล่าสุด จากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ (National Institutes of Health) จากการเก็บตัวอย่างเลือด 24,000 ตัวอย่างในช่วงต้นปี 2020 เปิดเผยข้อมูลพบว่า เชื้อโควิด-19 นั้น พบในสหรัฐฯ ในระดับที่ต่ำ ตั้งแต่ "ต้นเดือนธันวาคม 2019"
"มันสอดคล้องกับรายงานที่เราเคยเห็นจากฝั่งยุโรป และรายงานชิ้นอื่น ๆ จากสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่า ไวรัสมีการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้...ก่อนหน้าที่จะพบรายงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนมกราคม" ดร. แคร์โรล กล่าว
ต้นตอโควิด กลายเป็นอาวุธทางการเมือง
ดร.แคร์โรล ระบุว่า ในเวลานี้ ทั่วโลกต่างจับจ้องถึงต้นตอการระบาดของโรคโควิด-19 ท่ามกลางความตึงเครียด เนื่องจากพบว่าผู้คนต่างใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการโจมตีทางการเมืองต่อกัน
"ข้อเท็จจิรงคือว่า มันกำลังกลายเป็น 'แนวคิดในการโจมตีทางการเมืองระหว่างกัน' มันไม่ใช่คำถามด้านสาธารณสุขเพื่อเสาะแสวงหาคำตอบอีกแล้ว...และยิ่งเราขาดแคลนหลักฐาน เราก็จะยิ่งใช้ "ความคิดเห็น" และความคิดเห็นเหล่านี้เอง มี 'การเมือง' ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง"
นักระบาดวิทยาท่านนี้ยังชี้อีกว่า การระบาดใหญ่ จะสามารถควบคุมได้ด้วยความพยายามของหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกที่จะต้องร่วมมือกัน
"ผมหวังว่า สหรัฐอเมริกา จะร่วมกับจีนและประเทศอื่น ๆ ในการวางกลยุทธ์ในการทำงานร่วมกันในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับคนทุกคนบนโลก" ดร. แคร์โรล กล่าว
สหรัฐฯ เจอโควิดก่อนจีน?
ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกต่างโยนกันไปมาถึงต้นตอการระบาดของโควิด-19, เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ National Institutes of Health (NIH) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบการวิจัยด้านการแพทย์ชีวภาพและสาธารณสุข ได้เผยแพร่ผลการศึกษาฉบับหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีชาวอเมริกันอย่างน้อย 7 คนใน 5 รัฐ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2019 (ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่เมืองอู่ฮั่นของจีน มีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกอย่างเป็นทางการ)
สำหรับผู้ติดเชื้อ พบจากการเก็บตัวอย่างเลือดที่เก็บรวบรวมจากรัฐอิลลินอยส์, แมนซาชูเซตส์, มิสซิสซิปปี, เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิส และการศึกษาที่มีทีมวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอเมริกา (National Institutes of Health) หรือ NIH ร่วมอยู่ด้วย วิเคราะห์ตัวอย่างผลเลือด 24,000 ชิ้นที่เก็บรวบรวมระหว่างวันที่ 2 มกราคม และ 18 มีนาคม 2020 และพบว่าชาวอเมริกันในการศึกษานี้ ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มที่รวดเร็วที่สุด คือ ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2019 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ทั่วโลกจะรู้จักกับโควิด-19 ที่ระบาดหนักในเมืองอู่ฮั่นของจีน
ในจำนวน 7 ตัวอย่างที่พบติดเชื้อโควิด มี 3 คนจากรัฐอิลลินอยส์ ขณะที่ 4 รัฐที่เหลือ พบรัฐละ 1 คน // รวม 5 คน ที่พบตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2019 ทั้งที่รัฐเหล่านี้มีการบันทึกผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการศึกษาล่าสุดนี้ แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ หลายคนเริ่มที่จะยอมรับว่า มีผู้คนในสหรัฐฯ เริ่มติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่ทั่วโลกจะค้นพบว่ามีการระบาดเกิดขึ้นในจีน
การพบครั้งนี้ในสหรัฐฯ เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจาก
1. เป็นการพบเชื้อ ก่อนที่สหรัฐฯจะรายงานอย่างเป็นทางการเรื่องพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรก
2. เป็นการพบเชื้อ ก่อนที่จะระบาดครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีน
3. เป็นการเปิดเผยข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯเอง ซึ่งจะระบุว่ามีอคติ ก็คงไม่ได้
จากข้อมูลของสำนักข่าว Reuters ระบุว่า จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั่วประเทศอยู่ที่มากกว่า 33.6 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 600,000 คน
เรื่อง : ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล
ภาพ : Martin Sanchez