พยากรณ์อากาศวันนี้ 11 ตุลาคม 2568 ทั่วไทยยังมีฝน “กทม.ตกหนัก” 70% ของพื้นที่

เตือน ภาคกลาง-กรุงเทพฯ-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง

 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้) เตือนหลายพื้นที่ของประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนและมีฝนตกต่อเนื่อง

สภาพอากาศทั่วไป

กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พื้นที่ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนตกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ซึ่งอาจเกิดฝนตกหนักในบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วน ภาคเหนือตอนบน จะมีฝนน้อยลง ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มฝนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้

สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงกว่า 2 เมตร ชาวเรือและผู้ประกอบอาชีพทางทะเลควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศรายภาค (11 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 น. – 12 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 น.)

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

• ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา: ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คำแนะนำจากกรมอุตุนิยมวิทยา

• ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
• ชาวเรือควรใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
• ผู้ขับขี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลควรเผื่อเวลาเดินทาง เนื่องจากอาจมีฝนตกในช่วงเช้าและเย็น