ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กฟ้องบริษัทเมตา อ้างถูกติดตามผ่านช่องโหว่ระบบปฏิบัติการ iOS

การอัปเดตระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ครั้งใหญ่ของแอปเปิล (Apple) ทำให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งานได้ยากขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีการกล่าวหาจากผู้ใช้งานว่าแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันของบริษัท เมตา (Meta) ได้ทำการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานผ่านช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการไอโอเอส

การยื่นคำร้องต่อศาล 

ซึ่งได้มีการยื่นคำร้องกับศาลแขวงสหรัฐ ฯ ในเขตภาคเหนือของแคลิฟอร์เนีย โดยระบุว่า เมตาได้หลีกเลี่ยงข้อจำกัดใหม่ของแอปเปิล ด้วยการตรวจสอบผู้ใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก และในการยื่นคำร้องอาจมีการเปิดให้ผู้ใช้งานในสหรัฐ ฯ ที่ได้รับผลกระทบเหมือนกันเข้าร่วมลงชื่อ ซึ่งตามคาดการณ์ของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) อาจมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบมากถึงหลายร้อยล้านคน

โดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคู่หนึ่งกล่าวว่า เมตาไม่เพียงแต่ละเมิดนโยบายของแอปเปิล แต่ยังละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในระดับรัฐและรัฐบาลกลาง รวมถึงละเมิดพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวในการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ปี 1986

การฟ้องร้องที่คล้ายคลึงกัน 

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ก่อนหน้าได้มีการร้องเรียนที่คล้ายคลึงกัน โดยโจทก์กล่าวหาว่า เมตาติดตามกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้งานด้วยการเชื่อมโยงพวกเขาลงในเว็บเบราว์เซอร์ที่สร้างในเฟซบุ๊ก ซึ่งแฝงมาด้วยโค้ดคำสั่ง ที่ทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบ “ทุกการโต้ตอบกับเว็บไซต์ภายนอก” รวมถึงที่ที่พวกเขาแตะ และรหัสผ่านและข้อความอื่น ๆ ที่พวกเขาป้อน โดยไม่มีการบอกผู้ใช้งานว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นหรือกำลังถูกติดตาม

อย่างไรก็ตามเมตาได้กล่าวว่านี่เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม และ บริษัทจะปกป้องตัวเองอย่างจริงจัง เพราะบริษัทได้ออกแบบเบราว์เซอร์ในแอปพลิเคชันของบริษัทอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ความเคารพตัวเลือกความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมถึงวิธีการใช้ข้อมูลสำหรับโฆษณา

ข้อมูลและภาพจาก techcrunch.com