ปล้นครั้งประวัติศาสตร์ “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” สะท้อนฝรั่งเศสละเลยสมบัติล้ำค่า

กลายเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลก ยังกับหนังฮอลลีวูด เมื่อเกิดการโจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กลางวันแสก ๆ โดยใช้เวลาปล้นเพียงแค่ 7 นาที
แต่นอกจากมูลค่าความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ เหตุการณ์นี้ ยังสะท้อนให้ถึงปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานของฝรั่งเศส ประเทศที่สะสมวัตถุล้ำค่าของโลก แต่หละหลวมในการดูแล
7 นาทีปล้นสะท้านโลก
การปล้นมหากาพย์ครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อมีแก๊งโจรจำนวน 4 คน บุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ขโมยเครื่องเพชรล้ำค่าจำนวน 8 ชิ้น ที่จัดแสดงอยู่บริเวณ Apollo’s Gallery ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของฝรั่งเศส
กลุ่มขโมยได้ใช้ลิฟต์กระเช้า ขึ้นไปถึงหน้าต่างของพิพิธภัณฑ์แล้วทำการตัดกระจก เพื่อเข้าไปข้างใน โดยโจร 2 คน แต่งตัวคล้ายคนงานก่อสร้าง
เมื่อจารกรรมเสร็จสิ้น พวกเขาหลบหนี พร้อมเครื่องประดับทั้งหมด โดยใช้มอเตอร์ไซค์
แต่การขโมยครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ เพราะก่อนหน้านี้ ก็เคยมีการโจรกรรมสมบัติล้ำค่าของโลกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดโมนาลิซา ที่ถูกขโมยไปเมื่อปี 1911 ก่อนจะได้รับกลับคืนมาหลังจากนั้นประมาณ 2 ปี
หรือจะเป็นการบุกขโมยดาบฝังเพชรที่ใช้ในพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส เมื่อปี 1976 ที่จนถึงทุกวันนี้ ดาบชิ้นนี้ยังคงหายสาบสูญ
มีอะไรหายไปบ้าง ?
เครื่องประดับทั้งหมด ล้วนเป็นเครื่องเพชรจากราชวงศ์ฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่มาจากยุคนโปเลียน
กระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า สิ่งของที่ถูกขโมยไปได้มีดังนี้
ชุดเครื่องเพชรแซฟไฟร์ ซึ่งเคยเป็นของสมเด็จพระราชินีมารี-อาเมลี และสมเด็จพระราชินีออร์ต็องส์ ถูกขโมยไปทั้งหมด 3 ชิ้น ได้แก่ รัดเกล้า, สร้อยคอ และต่างหู 1 ข้าง
ต่อมาเป็นสร้อยคอมรกตและต่างหูมรกตหนึ่งคู่ของจักรพรรดินีมารี หลุยส์ ตามด้วยรัดเกล้า และเข็มกลัดของจักรพรรดินีเออเฌนี พระมเหสีของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3
ชิ้นสุดท้าย คือ เข็มกลัดโบราณที่รู้จักกันในชื่อ “เข็มกลัดพระบรมสารีริกธาตุ” หรือ "เข็มกลัดรีลิกเควรี"
อันที่จริงแก๊งโจรขโมยเครื่องเพชรออกมาทั้งหมด 9 ชิ้น แต่มีชิ้นหนึ่งตกใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งก็คือ มงกุฎจักรพรรดินีเออเฌนี ซึ่งชิ้นนี้ ประดับด้วยเพชร 1,354 เม็ด มรกตอีก 56 เม็ด ซึ่งก็อยู่ในสภาพที่มีความเสียหาย
ด้านอัยการปารีส เผยว่า มูลค่าของสิ่งของที่ถูกขโมยไปรวมทั้งหมดอยู่ที่ 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,300 ล้านบาท แต่นั่นเป็นเพียงความเสียหายของมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น เพราะถ้าหากรวมมูลค่าทางประวัติศาสตร์เข้าไปด้วย มันจะไม่สามารถประเมินค่าได้
ตอนนี้ ตำรวจสากล หรือ Interpol ขึ้นทะเบียนวัตถุที่ถูกปล้นในฐานข้อมูล Stolen Works of Art ทันที เพื่อป้องกันการขายข้ามชาติ
ฝรั่งเศสละเลยดูแลสมบัติชาติ ?
แม้ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก แต่ก็มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยร้ายแรง
มีการตั้งคำถามถึงความล้มเหลวของรัฐบาลฝรั่งเศส และมีการเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเคยเตือนถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและระบบกล้องวงจรปิดที่ล้าสมัยมานานแล้ว
การลดจำนวนพนักงาน ทำให้ยากต่อการดูแลรักษาสิ่งของที่จัดแสดงอย่างทั่วถึง ท่ามกลางจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ อดีตผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เคยออกมาเตือนเมื่อปี 1998 ว่า ระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้นเปราะบาง แต่ก็ได้รับการเพิกเฉย
ต่อมาปี 2021 ลอเรนซ์ เดส์ คาร์ส ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ได้ขอให้ตำรวจตรวจสอบความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ และทางตำรวจได้เสนอคำแนะนำการปรับปรุงกลับไปเมื่อปี 2025
แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ออกมายอมรับว่า การปรับปรุงตามคำแนะนำเหล่านี้ เพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อเกิดเหตุโจรกรรมขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องเพชรที่ถูกขโมยไป
บทความจากเว็บไซต์ The Conversation และสำนักข่าว Al Jazeera สัมภาษณ์รวบรวมความเห็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องเพชรที่ถูกขโมยไป ดังนี้
กรณีแรก กลุ่มโจรอาจแยกชิ้นส่วนอัญมณีต่าง ๆ ออก แล้วนำทอง และเงินไปหลอมละลาย ขึ้นรูปใหม่ จนจำรูปแบบเดิมไม่ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการขาย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ชิ้นส่วนเหล่านี้ มาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แต่หากทำเช่นนั้น มูลค่าของอัญมณีก็จะลดลงด้วย เพราะมูลค่าเครื่องประดับเหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากประวัติศาสตร์และการออกแบบของราชวงศ์
กรณีที่ 2 คนร้าย หรือ บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง อาจขายคืนให้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือ เรียกร้องเงินบางส่วนจากรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนกับเครื่องเพชรทั้งหมด
เพราะการขโมยรอบนี้ สร้างความเสียหายแก่รัฐบาล และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พวกเขาก็อาจจะยอมเจรจาแบบเงียบ ๆ เพื่อต่อรอง และซื้อคืนกลับมา แต่กรณีนี้จะทำได้ต่อเมื่อความสนใจของสาธารณชนลดลง และพวกโจรรู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะติดต่อกลับไป
กรณีที่ 3 คือ พยายามนำไปขายในตลาดมืด แต่มูลค่าก็จะลดลงมาก เพราะว่า คนซื้อต้องแบกรับความเสี่ยง หากจะต้องซื้อ และเก็บอัญมณีที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ ซึ่งเป็นข่าวฉาวทั่วโลกเอาไว้กับตัว โดยผู้เชี่ยวชาญ คาดว่า กลุ่มโจรอาจจะขายในราคาแค่ 10-30% หรือราว 10-30 ล้านดอลลาร์สหรัฐของมูลค่าที่แท้จริง
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่า ทางการจะสามารถจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด แต่การที่จะได้เครื่องเพชรคืนนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้เร็วแค่ไหน ซึ่งการได้อัญมณีคืนในสภาพเดิม ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคนร้ายอาจแปรสภาพไปแล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://theconversation.com/louvre-heist-the-turbulent-history-of-the-stolen-royal-jewels-267994
https://www.bbc.com/news/articles/cg7nrlkg0zxo
https://apnews.com/article/louvre-jewel-heist-security-e213b6e933e87f5a959bb51dbfdf765f
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
