'ดีอีเอส' ลุยปราบข่าวปลอมตาม พรก.ฉุกเฉิน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า การตรวจสอบและจับกุมผู้ที่โพสต์ข่าวปลอมสร้างความสับสนและตื่นตระหนกในสังคมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดีอีเอส ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่มีประกาศข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกมาบังคับใช้
โดยตรวจสอบพบการกระทำผิด จำนวน 7 เรื่อง และผู้มีกระทำผิด 9 ราย ประกอบด้วย 1.ไปรษณีย์เตือน! มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 จากจดหมายหรือพัสดุ พบผู้กระทำผิด 1 ราย อยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2.ลือ เคอร์ฟิว 24 ชม.เริ่มเสาร์อาทิตย์นี้ ต้องตุนอาหารและเครื่องดื่ม พบผู้กระทำผิด 1 ราย อยู่ที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
3.พบพนักงานธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยติดเชื้อ พบผู้กระทำผิด 1 ราย อยู่ที่ เขตสวนหลวง กทม. 4.ด่วน! ย้ายศูนย์ ศบค.หลังพบ จนท.เริ่มติดเชื้อ COVID-19 พบผู้กระทำผิด 1 ราย อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 5.ห้ามกิน! เห็ดเข็มทองเพราะมีพิษโควิด-19 อันตรายถึงชีวิต พบผู้กระทำผิด 1 ราย อยู่ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา 6.แชร์สนั่นรัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน 24 ชม.ภายในสัปดาห์หน้า พบผู้กระทำผิด 2 ราย อยู่ที่ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี และ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และ 7.ห้ามใช้อินเตอร์เน็ตว่าร้ายรัฐบาล พบผู้กระทำผิด 2 ราย อยู่ที่ อ.ระโนด จ.สงขลา และ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ล่าสุดขณะนี้ศาลออกหมายค้นแล้ว 2 ราย คือ กรณี อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงที่บ้านเมืองกำลังประสบวิกฤตเช่นนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่ฝ่าฝืนอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ