กรมอนามัย แนะข้อปฏิบัติสำหรับคู่รักในช่วงวาเลนไทน์ "มีรักที่ปลอดภัย มั่นใจปลอดโควิด" ตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ ATK ก่อนมีกิจกรรมร่วมกัน

วันนี้ (10 ก.พ.65) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาล "วันวาเลนไทน์" ว่า ในช่วงเดือน ก.พ. จะมีวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. เป็นวันสำคัญของคนหนุ่มสาว และคู่รัก ซึ่งมักฉลองและมีกิจกรรมร่วมกันในสถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารกึ่งผับบาร์

 

ทั้งนี้ กรมอนามัย ขอความร่วมมือในการป้องกันโควิด หากมีเพศสัมพันธ์ ขอให้ป้องกันให้ปลอดภัย คือ "มีรักที่ปลอดภัย มั่นใจปลอดโควิด" ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น

 

เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ปีที่แล้ววัคซีนมีน้อย การฉีดยังไม่ครอบคลุม และเรายังไม่มีชุดตรวจ ATK หรือมีก็ราคาแพง ดังนั้นปีที่ผ่านมาเราจึงแนะนำว่า ให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามแนวทาง สวมหน้ากากตลอดเวลา และอย่าหันหน้าเข้าหากันเวลามีเพศสัมพันธ์

 

ขณะที่ ในปีนี้สถานการณ์เปลี่ยนแล้ว เพราะคู่รักทั้งสองคนสามารถทำตัวเองให้มีความปลอดภัย ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นสิ่งที่คู่รักควรทำคือ ไปรับวัคซีนตามเกณฑ์ หรือเข็มกระตุ้นตามคำแนะนำ และต้องคัดกรองตัวเองด้วยการประเมินความเสี่ยง ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หรือแอปพลิเคชันไทยเซฟไทยของกรมอนามัย

 

โดยประเมินทั้งกิจกรรม พฤติกรรม สถานที่ไป และอาการ ถ้ามีความเสี่ยงก็ตรวจ ATK ถ้าปลอดภัย ก็มีกิจกรรมร่วมกันได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ แต่ที่ต้องระวังอีกประการคือ สถานที่ที่คู่รักจะไปทำกิจกรรมร่วมกันมีความเสี่ยงหรือไม่ ทั้งร้านอาหารกึ่งผับบาร์ และสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เช่น สถานที่ที่คล้ายสถานบริการ ซึ่งเราก็ต้องดูสุขอนามัยของสถานที่นั้นด้วย

 

"ช่วงวาเลนไทน์นี้ คู่รักหรือคู่สามีภรรยา สามารถร่วมกิจกรรมวันวาเลนไทน์ได้ เพียงแต่ขอให้รู้จักมาตรการและเลือกปฏิบัติให้เหมาะสมกับคู่ของตนเอง และเลือกประเมินความเสี่ยงทั้งสถานที่ กิจกรรม และตนเอง ถ้าทำได้ ก็จะลดความเสี่ยงได้มาก

 

แต่ย้ำว่า คู่รักมักเป็นหนุ่มสาว หากติดเชื้อจะไม่มีอาการ แต่อย่าลืมว่า เมื่อจบกิจกรรมวันวาเลนไทน์แล้ว อาจนำเชื้อกลับเข้าบ้าน ซึ่งมีกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็ก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้ส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ และเป็นผู้รับเชื้อจากคนที่ออกไปนอกบ้าน" อธิบดีกรมอนามัย กล่าวทิ้งท้าย.

 

ข้อมูลจาก: กรมอนามัย