เจาะลึกกล้องรีเพลย์ ที่ “โค้ชเช” ใช้ชาเลนจ์เก็บแต้มยกสาม 100% ให้เทนนิส ในเทควันโดโอลิมปิก 2024
คะแนนที่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย มือวางอันดับ 1 ของโลก ได้จาก "กัว ฉิง" นักกีฬาจากจีน ด้วยคะแนน 2-1 ยก (6-3, 2-3, 6-2) จนคว้าเหรียญทองในโอลิมปิก 2 สมัยซ้อน ส่วนหนึ่งมาจากการชาเลนจ์ (Challenge) ของ “โค้ชเช” ชัชชัย เช ที่แม่นยำเหมือนเป็นระบบตรวจจับเสียเอง TNN Tech จึงขอเจาะลึกระบบที่ใช้ชาเลนจ์ ในกีฬาเทควันโดโอลิมปิก 2024 ในครั้งนี้
ระบบกล้องรีเพลย์ในเทควันโดโอลิมปิก 2024
ระบบที่โค้ชเชใช้ชาเลนจ์ เรียกว่า ระบบดูภาพย้อนหลัง (IVR: Instant Video Replay) โดย TNN Tech สืบค้นข้อมูลพบว่า สมาพันธ์เทควันโดโลก (World Taekwondo: WT) เป็นผู้รับผิดชอบระบบ IVR ในการแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือก ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันเทควันโดทุกประเภทและทุกรายการ
โดยในรอบชิงชนะเลิศ จะเป็นการติดตั้งกล้องวิดีโอความละเอียดสูง (Full HD) ทั้งหมด 6 ตัว แบ่งเป็นกล้องที่มุมสนามการแข่งขันแต่ละมุม รวม 4 ตัว กล้องภาพรวมอีก 1 ตัว และกล้องเหนือศีรษะอีก 1 ตัว ทั้งหมดจะเชื่อมต่อและเชื่อมโยงกับระบบแสดงคะแนน (Scoreboard) ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า OBS ซึ่งเป็นโปรแกรมควบคุมภาพการถ่ายทอดสดแบบ open-source ชื่อดัง
กล้องรีเพลย์ที่ทำแต้มให้เทนนิส ในเทควันโดโอลิมปิก 2024
โดยในการแข่งขันยกที่ 3 ของรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กับ กัว ฉิง โค้ชเชได้ขอชาเลนจ์ทั้งหมดรวม 2 ครั้ง ซึ่งทั้งสองครั้งเป็นการเตะที่บริเวณศีรษะ ซึ่งเป็นจุดที่อาจมีปัญหาในการทำงานของเซนเซอร์เกราะไฟฟ้า (PSS) ได้ ซึ่งตามกฎของ WT แล้ว การหากมีเตะทำคะแนนบริเวณศีรษะแต่ไม่ขึ้นคะแนน ผู้ฝึกสอนสามารถชาเลนจ์ หรือประท้วงเพื่อเรียกดูภาพในระบบ IVR ได้
และเมื่อโค้ชเชทำการประท้วง กรรมการจะสลับภาพการแข่งขันซึ่งเป็นภาพเดียวกับที่ผู้ชมเห็นผ่านการถ่ายทอดสด ไปเป็นมุมกล้องที่ใช้สำหรับระบบ IVR ผ่านปุ่มคำสั่งของสตีมเด็ค (Steam Deck) ชุดแผงควบคุมที่ปรับแต่งคำสั่งแต่ละปุ่ม (Programable Keys) ที่ WT ตั้งค่าไว้ จากนั้น กรรมการจะทำการเล่นภาพย้อนหลัง โดยสลับมุมกล้องต่าง ๆ ซึ่งถ้าพบว่าการเตะที่เกิดขึ้นโดนศีรษะบริเวณเหนือเส้นขอบด้านล่างของเฮดการ์ดป้องกันศีรษะขึ้นไปจริง จะถือว่าได้แต้ม โดยได้ 3 คะแนน ต่อการเตะที่บริเวณศีรษะ
ทั้งนี้ จากการชาเลนจ์ทั้ง 2 ครั้ง ในยกที่ 3 ของโค้ชเช ทำให้เทนนิสได้คะแนนรวม 6 คะแนน และถึงแม้จะโดนกันเจิม หรือการให้คะแนนฝ่ายตรงข้ามจากการผิดกติการะหว่างการแข่ง แต่เทนนิสก็เอาชนะด้วยคะแนน 6-2 ในที่สุด และได้แชมป์โอลิมปิกอีกครั้งในรุ่น น้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม หญิง คว้าเหรียญทองแรกให้กับประเทศไทยในโอลิมปิก ปารีส 2024 และเก็บเหรียญทองที่ 2 ของเทนนิสในโอลิมปิกเกมส์ ปิดจ็อบอำลาทีมชาติไปอย่างสวยงาม
ข้อมูลจากWT (via Youtube), NBC Olympics, WT