รีเซต

โควิด-19 : เปิดใจลูกผู้เสียชีวิต “พ่อคือคนที่แข็งแรงที่สุด ในครอบครัว”

โควิด-19 : เปิดใจลูกผู้เสียชีวิต “พ่อคือคนที่แข็งแรงที่สุด ในครอบครัว”
บีบีซี ไทย
3 เมษายน 2563 ( 07:26 )
123
EPA

"ขอบใจทุกคน ขอบใจคำอวยพรที่มอบให้" ลูกสองคนของชายวัย 70 ปีเศษ รูปร่างสันทัด ไม่คิดว่านั่นจะเป็นคำพูดในวันเกิดที่พวกเขาได้ฉลองกับพ่อเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 พ่อเป็นคนแข็งแรง ไม่เคยมีโรคร้าย

ข่าวการระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย มีต้นตอมาจากจีน ทำให้สองพี่น้องเป็นห่วงอยู่ในใจถึงสภาพการทำงานขับรถทัวร์ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนของพ่อ แต่นั่นก็ยังไม่ถึงกับเป็นความกังวล เพราะตั้งแต่เล็กจนโตพวกเขาไม่เคยเห็นพ่อของตัวเองต้องล้มป่วย

พ่อของหญิงสาววัย 30 ปี กับพี่ชายวัย 33 ปี มีรถบัสขนาด 40 ที่นั่งเป็นของตัวเอง เอาไว้รับงานจากบริษัททัวร์อีกทอดหนึ่ง นำนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ไปชลบุรี เพื่อดูคาบาเร่ต์ และไปเที่ยวพัทยา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

"พ่อทำงานหนักมาก แต่เขาแข็งแรง ไม่เคยเป็นอะไร พ่อทำงานไม่เคยหยุด กิน และนอนบนรถทัวร์ตลอดเวลา วันเกิดพ่อ พอเราทานข้าวที่ร้านอาหารกันเสร็จ เราก็เอาเค้กไปเป่ากันบนรถทัวร์" ลูกสาวเล่า

พี่ชายของเธอบอกว่าช่วงที่เริ่มมีข่าวการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กระทั่งต้นเดือนมกราคมที่เริ่มมีข่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย พ่อของพวกเขาก็ยังขับรถพานักท่องเที่ยวชาวจีนไปพัทยาเหมือนเคย รวมทั้งกินและนอนบนรถทัวร์เช่นเดิม

"พอช่วงสักวันที่ 28 มกราคมที่พ่อเริ่มบอกว่าเขาเพลีย เราก็พาเขาไปตรวจร่างกายที่คลินิกใกล้บ้าน ไปตรวจตอนแรกก็ปกติดีทุกอย่าง เพียงแต่แกบอกว่าไม่มีแรง หมอเลยฉีดยาให้เข็มหนึ่งอย่างที่เคยขอหมอให้ฉีดเวลารู้สึกเพลีย" ลูกสาวอธิบาย

ทว่าหลังจากนั้นอาการของพ่อก็ไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลง พ่อมีอาการหนาวสั่น และหายใจผิดปกติ

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ลูก ๆ ตัดสินใจพาพ่อไปรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์ได้รับการรักษาตามบัตรทองอยู่ ขณะนั้นยังไม่มีใครแจ้งหมอว่างานที่พ่อทำคืองานที่ต้องพบปะกับนักท่องเที่ยวชาวจีน

AFP
หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถานประกอบการท่องเที่ยวหลายแห่งที่เคยต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนต้องปิดทำการชั่วคราว

"หมอก็บอกแค่ว่าเป็นปอดอักเสบรุนแรง เพราะหมอไม่รู้ว่าพ่อใกล้ชิดนักท่องเที่ยวจีน เป็นช่วงแรก ๆ ที่เราไม่ได้บอกหมอ เราคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าพ่อจะเป็น เพราะเขาแข็งแรง เราบอกหมอในตอนเย็น ตอนที่เอาข้าวของเครื่องใช้ไปให้พ่อ เพราะน้องที่รู้จักกันทำงานด้านอนามัยบอกว่าเราต้องแจ้งหมอนะ พอถึงตอนนั้นหมอก็แจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขทันทีและย้ายพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร"

ราววันที่ 6 ก.พ.สื่อในเมืองไทยเริ่มรายงานข่าวเรื่องผู้ป่วยโรคโควิดที่เป็นคนขับรถทัวร์

ขณะนั้นภรรยา ลูกชาย และลูกสาวของผู้ป่วยรายนี้ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทุกคนปลอดเชื้อ แม้ลูกชายจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัด แต่ก็ไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ในเวลาเดียวกันพ่อของเขาดิ้นรนขัดขืนไม่ยอมรับการรักษา

Getty Images
นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปชมการแสดงคาบาเรต์ที่พัทยา

"หมอต้องมัดแขนขาของพ่อเพราะเขาต่อต้านการรักษาในช่วงแรก พ่อไม่เคยต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่เคยป่วย แต่กลับต้องมานอนให้หมอสอดท่ออาหาร สอดท่อเครื่องช่วยหายใจ เขาถึงดิ้นรน แต่แพทย์ก็ต้องรักษาให้ได้ กระทั่งพ่อยอมรับรู้ว่าเขาป่วย และต้องรักษาจริง ๆ เขาถึงเริ่มคลายและยอมรับการรักษา จากนั้นหมอก็เลิกมัด" ลูกชายนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสองเดือนก่อน

วันที่ 23 มีนาคม 2563 เมืองไทยได้รับรู้ข่าวการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายที่สองของประเทศ

"รวมเวลาที่พ่ออยู่โรงพยาบาลทั้งสิ้น 15 วัน ตอนแรกมันไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นคนในครอบครัวเรา และเป็นคนแข็งแรงที่สุด พวกผม แม่ และน้องป่วยไข้กันบ่อย แต่พ่อไม่ค่อยมีอาการป่วย จะป่วยก็น้อยมาก หนึ่งปีจะมีสักครั้งสองครั้งที่เป็นไข้ ถ้าไม่โรคนี้พ่อก็น่าจะยังอยู่กับเรา"

ลูก ๆ เชื่อว่าสาเหตุที่พ่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพราะไม่ป้องกันตัวเอง และรู้สึกรำคาญที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ทางครอบครัวจัดหาให้

"มันนึกถึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ พ่อติดเชื้อมาแล้ว การเสียชีวิตของเขา กระทบต่อที่บ้านเต็ม ๆ เพราะเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว เขาทำงานเอง รับงานเอง ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีบำนาญอะไรทั้งสิ้น" ลูกชายของเหยื่อโรคร้ายที่ยังไม่มีทางรักษาเล่าความรู้สึก

พิธีศพของพ่อจัดขึ้นที่วัดในชุมชนที่อาศัยอยู่ พิธีเป็นไปอย่างรวบรัด มีการสวดศพเพียงหนึ่งคืนต่อหน้าภาพถ่ายและโลงศพที่ว่างเปล่าเพราะศพถูกนำไปไว้ในจุดที่เตรียมพร้อมสำหรับการฌาปนกิจ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสาธารณสุข และความตกลงกับคนในชุมชนที่ต้องการให้ทำพิธีเพียงวันเดียว

ไม่กี่วันหลังจากนั้นครอบครัวของเขายังลงภาพใบรับรองแพทย์จากสถาบันบำราศนราดูรทางโซเชียลมีเดีย เพื่อยืนยันว่าทุกคนปลอดจากโรคโควิด-19

"ทุกวันพ่อเราก็จะไปไหว้พ่อทุกปี ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็จะไปหา ตอนมีชีวิตอยู่พ่อก็จะโทรหาเรา เช้า กลางวัน เย็น ตลอดเวลา ตอนนี้รู้สึกเคว้งคว้างในใจ นึกถึงพ่อที่เป็นคนไม่ค่อยพูด แกทำอย่างเดียว แกไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลย" ลูกสาวพูดถึงพ่อในวันที่เขาเพิ่งจากไปได้เพียงหนึ่งสัปดาห์

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง