การุณยฆาตแมวนับร้อย ชาวเน็ตรับไม่ได้รุมจวกหน่วยงานไต้หวันเละ
การุณยฆาตแมวนับร้อย - วันที่ 23 ส.ค. เดอะการ์เดียนรายงานว่า การตัดสินใจการุณยฆาตแมว 154 ตัว ที่ถูกลักลอบนำเข้ามาของทางการไต้หวัน สร้างความเดือดดาลและเรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ทั้งจากหน่วยงานพิทักษ์สัตว์และผู้นิยมสัตว์เลี้ยง
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหน่วยยามฝั่งของไต้หวันเข้าจับกุมเรือขนสินค้าผิดกฎหมายที่มาจากประเทศจีน ห่างจากชายฝั่งเมืองเกาสงทางใต้ของเกาะไปราว 74 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 แล้วขึ้นไปตรวจสอบบนเรือ
การตรวจสอบพบกรงขังสัตว์เลี้ยง 62 กรง ภายในพบแมวหลายสายพันธุ์ที่นิยมจำหน่ายเป็นสัตว์เลี้ยงในราคาสูง อาทิ รัสเชียน บลู แร็กดอลล์ เปอร์เชียน อเมริกัน ชอร์ทแฮร์ และบริติช ชอร์ทแฮร์ นับรวมได้ 154 ตัว รวมมูลค่าเกือบ 12 ล้านบาท จึงนำไปทำลายทิ้งตามกฎหมาย ซึ่งบังเอิญตรงกับวันสัตว์ไร้บ้านสากล
ทางการไต้หวันชี้แจงว่า การตัดสินใจกระทำการุณยฆาตแมวทั้งหมดนั้นเนื่องมาจากไม่ทราบที่มาของพวกมันแน่ชัดจึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะนำโรคติดต่อร้ายแรงมาสู่สัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในไต้หวัน แต่เรื่องราวดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดดาลจากชาวไต้หวันและกลุ่มนักพิทักษ์สัตว์อย่างรุนแรง
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตตั้งคำถามต่อทางการไต้หวันว่า "ไต้หวันไม่มีขีดความสามารถที่จะเอาพวกเค้าไปเฝ้าดูอาการก่อนเหรอ ไต้หวันชอบฆ่าแมวที่ไม่ได้ทำผิดอะไรแบบนี้เหรอ"
ขณะที่บางคนแสดงความเห็นเชิงเข้าอกเข้าใจทั้งสองฝ่ายว่า "มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่น้องแมวเหล่านี้ต้องมาตายไปเปล่าๆ แต่เจ้าหน้าที่เค้าก็ต้องทำแหละเพื่อปกป้องความปลอดภัย"
รายงานระบุว่า ไต้หวันนั้นมีอัตราส่วนผู้ครองสัตว์เลี้ยงสูง ส่งผลให้อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงนั้นมีเงินหมุนเวียนมหาศาล อาทิ การบริการดูแลสัตว์ ไปจนถึงของเล่น อุปกรณ์ตกแต่ง รวมถึงโรงพยาบาลสัตว์ที่มีแม้กระทั่งแผนกจิตเวชสัตว์เลี้ยง
รายงานข่าวการทำการุณยฆาตข้างต้นจึงกลายเป็นหนึ่งในหัวข้อที่มีผู้อ่านมากที่สุดตามสื่อในไต้หวัน โดยนอกจากรายงานข่าวแล้วยังมีภาพของน้องแมวหลายตัวอยู่ภายในกรง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่นำไปทำลายทิ้ง เรียกเสียงประณามอย่างรุนแรงต่อหน่วยงานไต้หวัน
ความเดือดดาลดังกล่าวถึงขั้นที่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้รักสัตว์ (เลี้ยงแมว 2 ตัว และมักนำมาอวดในโลกออนไลน์บ่อยครั้ง) แถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขอความเข้าใจจากสังคม ว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำเพื่อลดความเสี่ยงของโรคติดต่อจากสัตว์ที่ถูกลักลอบนำเข้า
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไช่ กล่าวยืนยันว่า พร้อมจะรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อไปพิจารณากฎหมายดังกล่าว ว่าจะสามารถแก้ไขให้มีมนุษยธรรมมากกว่านี้ได้เพียงใด
ผู้แสดงความคิดเห็นบนทวิตเตอร์ต่อเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมีจำนวนนับหมื่นๆ คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไต้หวัน ที่ตั้งคำถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่นำพวกมันไปกักตัวรอดูอาการหากเกรงว่าป่วย พร้อมแสดงความโกรธแค้นไปยังกลุ่มลักลอบนำเข้าที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่โศกนาฏกรรม
ในจำนวนนี้ ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นบางส่วนแสดงความคิดเห็นไปในอีกทางโดยตั้งคำถามต่อบรรดาผู้ประณามเหตุ ว่ารุนแรงเกินความจำเป็นและสองมาตรฐาน เพราะกับสัตว์อื่นกลับไม่แสดงอาการเดือดดาลอย่างนี้มาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ตั้งคำถามได้น่าสนใจ ว่าส่วนหนึ่งของสาเหตุมาจากผู้รักสัตว์เลี้ยงเองหรือไม่ที่ต้องการเลือกซื้อแต่แมวพันธุ์ที่ต้องการทำให้มีกลุ่มที่ลักลอบนำเข้า ทั้งยังเรียกร้องให้ชาวไต้หวันหันมารับเลี้ยงน้องแมวไร้บ้านแทนการออกไปหาซื้อหากรักแมวจริง
ด้านโฆษกกลุ่มเอ็นจีโอ Taiwan Animal Emergency Rescue เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานเคยเสนอออกค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อนำพวกมันไปกักตัวรอดูอาการและตรวจร่างกายแล้ว พร้อมกล่าวโจมตีหน่วยงานที่รีบร้อนตัดสินใจกระทำการุณยฆาตพวกมัน
"สัตว์เหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรผิด จริงอยู่ที่ว่ามีข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องพรมแดน แต่การตรวจร่างกายพวกเค้านั้นสามารถทำได้ว่าเค้าป่วยหรือไม่"
"เราเข้าใจดีเรื่องความสำคัญต่อการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับเพื่อการปกป้องระบบนิเวศท้องถิ่น แต่ท้ายที่สุดแล้วผมหวังว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้ให้มันมีมนุษยธรรมมากกว่านี้" โฆษก Taiwan Animal Emergency Rescue ระบุ
นายเฉิน ชีชุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของไต้หวัน กล่าวยืนยันต่อการตัดสินใจที่เกิดขึ้น และขอเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตัดสินใจนี้แต่เพียงผู้เดียว
"แมวพวกนี้ต่อให้นำพวกเค้าไปกักตัวรอดูอาการก็ยังสามารถเป็นพาหะได้เนื่องจากไวรัสบางชนิดมีระยะการฟักตัวที่ยาวนาน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงใหญ่หลวงต่อสัตว์เลี้ยงและการปศุสัตว์ในไต้หวัน" นายเฉิน ระบุ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเลี้ยงสุกรในไต้หวันเคยเผชิญกับโรคปากเท้าเปื่อยในช่วงปลายค.ศ. 1990 สร้างความเสียหายใหญ่หลวงและใช้เวลากวาดล้างนานถึง 23 ปี
รมว.เกษตรของไต้หวัน กล่าวว่า อยู่ระหว่างทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อเพิ่มอัตราโทษปรับให้กับบุคคลที่ลักลอบนำเข้าสัตว์เป็นเงินถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 100 ล้านบาท
นายอู่ ฮั่ง ผู้อำนวยการ Environment and Animal Society of Taiwan เรียกร้องให้รัฐบาลให้แก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจการตรวจสอบให้องค์กรอิสระด้านพิทักษ์สัตว์ ซึ่งจะเปิดช่องให้องค์กรอิสระเข้าแทรกแซงช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ได้ และโจมตีว่าการรีบร้อนการุณยฆาตนั้นผิด
"เจ้าหน้าที่ยามฝั่งเค้าไม่มีความเข้าใจเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ มันยังมีสิ่งที่ต้องสืบสวนต่อได้อีก ว่าใครคือผู้ซื้อ ขยายผลหาเครือข่ายของขบวนการ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น" นายอู่ ระบุ