คัด 25 หุ้นกลางใหญ่ราคาลง,ไม่มี ESG RATING กองทุน Thai ESGX ลงทุนได้

#ทันหุ้น-ฝ่ายวิจัยบล.เอเซีย พลัส ได้กรองเพิ่มเติมว่ามีหุ้นอีกหลายบริษัทไม่มี ESG RATING และมีการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจกและ/หรือ มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CGR) โดยมีอยู่ 25 บริษัทที่เป็นหุ้นขนาดกลางใหญ่และราคาหุ้นปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี(YTD) อาทิหุ้น TRUE, BH, CCET, BCP, ITC, TIDLOR, AAV, SPRC, AURA,DOHOME, CHG, RCL,IRPC เป็นต้น

เมื่อวานนี้ตลท. เปิดเผยถึงประเภทสินทรัพย์ที่กองทุน THAI ESGX ซึ่งต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มยั่งยืนใน SET หรือ MAI ไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV ซึ่งต้องเป็นหุ้นที่เข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 เกณฑ์ดังนี้

- เป็นบริษัทที่มีเรทติ้งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หรือเป็นบริษัทที่ได้รับเรทติ้งด้าน SET ESG RATING หรือในระดับสากลอื่น ๆ อาทิ MORNING STAR, FTSE, MSCI เป็นต้น

- เป็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งผ่านการทวนสอบได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)

-เป็นบริษัทที่มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน หรือ CGR ซึ่งดำเนินการโดย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (THAI INSTITUTE OF DIRECTORS: IOD) เกินกว่า 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลใน ESG DATA PLATFORM ของตลท.เกินกว่า 85% ของไอเทม

ซึ่ง ตลท.เปิดเผยรายชื่อหุ้นยั่งยืน (SET ESG RATINGS) และหุ้นไทยที่มีการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจกสำหรับกองทุน THAI ESG และ THAI ESGX โดยมีจำนวนหุ้น 14 บริษัทที่เป็น NON-RATING ประกอบด้วยหุ้น AYUD, BCP,CHG, CONREIT, ERW, GLAND, METCO, PPP, RCL, SUSCO, TIDLOR, TMI, TRP และ TRUE

ทั้งนี้กระบวนการจัดตั้งกองทุนหลังจากนี้ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดไทม์ไลน์ว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับ ก.ล.ต. คาดว่าช่วงปลายเดือนเม.ย. จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (FILLING) เพื่อจัดตั้งกองทุน THAI ESGX ได้และจะเริ่มเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. และคาดว่าว่าเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวน่าจะเป็นตัวช่วยพยุงให้ SET INDEX กลับทิศทางเป็นขาขึ้นและเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้ระดับหนึ่ง และทำให้ภาวะการเกิด SELL IN MAY ทุเลาลง