ซูเปอร์ไต้ฝุ่น 'โกนี' พัดถล่มฟิลิปปินส์
มะนิลา, 1 พ.ย. (ซินหัว) -- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ระบุว่าไต้ฝุ่น 'โกนี' พายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในปีนี้สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ ได้พัดขึ้นฝั่งที่ภูมิภาคบีโคล (Bicol) ทางใต้สุดของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (1 พ.ย.)
สำนักงานบริการด้านบรรยากาศ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ (PAGASA) รายงานว่าไต้ฝุ่นโกนีซึ่งทวีความรุนแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อเวลา 2.00 น. มีความเร็วลมสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุดที่ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะพัดถล่มเมืองบาโต (Bato) ในจังหวัดคาตันดัวเนส ซึ่งเป็นเกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอน เมื่อเวลาประมาณ 04:50 น. พร้อมระบุว่าพายุโกนีกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีการอพยพประชาชนในภูมิภาคบีโคลออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง รวมถึงเหตุดินถล่ม และมีคลื่นสูงถึง 3 เมตร
หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์สั่งปิดท่าเรือหลายสิบแห่งทำให้มีนักท่องเที่ยวติดค้าง ส่วนเจ้าหน้าที่สนามบินประกาศเมื่อคืนวันเสาร์ (31 ต.ค.) ว่าสนามบินนานาชาติของกรุงมะนิลาจะปิดให้บริการนาน 24 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันอาทิตย์ (1 พ.ย.)
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโกนี ซึ่งเป็นพายุหมุนหรือพายุไซโคลนลูกที่ 18 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ จะพัดผ่านจังหวัดเกซอนและพื้นที่อื่นๆ ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา และอาจอ่อนกำลังลงเมื่อพัดเข้าใกล้เมืองหลวง ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยกรุงมะนิลาได้ปลดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่อยู่ตามถนน เนื่องจากเกรงว่าลมแรงอาจพัดพาให้ป้ายล้มลงและทำให้ผู้คนบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโกนีพัดถล่มใกล้กับภูมิภาคของฟิลิปปินส์ที่เคยถูกไต้ฝุ่นโมลาเบซัดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ทั้งยังทำลายสิ่งก่อสร้างและพืชผล
พายุไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนมักพัดถล่มฟิลิปปินส์ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนธันวาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยรายและสร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์
ประเทศฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "แนววงแหวนแห่งไฟ" ในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟระเบิดหรือแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง รวมถึงต้องเจอพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก นำมาซึ่งเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม โดยระหว่างปี 2010-2019 ฟิลิปปินส์สูญเสียเงินเนื่องจากภัยธรรมชาติมากถึง 4.63 แสนล้านเปโซ (ประมาณ 2.98 แสนล้านบาท)