รีเซต

บีทีเอส เดินหน้าชน ลุยฟ้อง รฟม.เพิ่ม ชี้ ทำไม่ถูกกม. อุบ ยังมีหลักฐานเด็ด จ่อเอาผิดอาญา

บีทีเอส เดินหน้าชน ลุยฟ้อง รฟม.เพิ่ม ชี้ ทำไม่ถูกกม. อุบ ยังมีหลักฐานเด็ด จ่อเอาผิดอาญา
มติชน
10 มีนาคม 2564 ( 18:29 )
40

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ โรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผยระหว่างแถลงคืบหน้าเรื่องการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า บริษัทฯ จำเป็นต้องยื่นฟ้อง ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต่อมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564

 

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ระหว่างรอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองกลางและการดำเนินกระบวนการทางอาญาของศาลอาญาคคีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่บริษัทฯ ฟ้อง รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ว่าได้กระทำความผิด รฟม. โดย นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนด้วยการประกาศรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนใหม่ ผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ของ รฟม. มีสาระสำคัญของวิธีการประเมินข้อเสนอ ที่เป็นไปตามเกณฑ์​ใหม่ หรือ ด้านเทคนิค 30 คะแนน ด้านราคา 70 คะแนน

 

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอในข้างต้น เป็นหลักเกณฑ์เดียวกับหลักเกณฑ์ที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่ให้ รฟม. นำมาใช้บังคับในการคัดเลือกเอกชน โดยศาลปกครองกลางชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงวิธีการประเมินข้อเสนอในเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน เล่มที่ 1 ข้อแนะนำผู้ยื่นข้อเสนอ และการออกเอกสาร สำหรับการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 น่าจะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจาก รฟม.แถลงข่าวถึงการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่มีคำสั่งจำหน่ายคดีเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะนี้ทีมกฎหมายของบีทีเอสอยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมาย และยืนยันว่ามีสิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน บีทีเอสมีสิทธิ์ฟ้องศาลปกครองกลางเพิ่ม 2 คดี ประกอบด้วย กรณีที่รฟม.ยกเลิกการประกวดราคา และกรณีรฟม.เปิดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน พื่อเตรียมเปิดประมูลโครงการฯ รอบที่ 2

 

”บีทีเอส ไม่ต้องการแสดงออกในลักษณะของการโต้แย้งกับหน่วยงานของรัฐผ่านสื่อ เราพยายามร้องขอความเป็นธรรมและดำเนินตามกระบวนการกฎหมายที่มี แต่จนถึงขณะนี้เราพบว่า มีความพยายามเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจทำให้บีทีเอสเกิดความเสียหาย ดังนั้น ในวันนี้เราจึงมีความจำเป็นต้องชี้แจงความจริงทั้งหมด สิ่งที่ดำเนินการมา และสิ่งที่กำลังดำเนินการต่อไปเพื่อให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนจะร่วมประมูลหรือไม่นั้น ขอดูทีโออาร์ที่จะออกมาก่อน และยืนยันว่าบีทีเอสไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ใหม่ แต่ถ้ารวมประมูลก็ยังดำเนินการร่วมกับซิโนไทย และอาจจะมีการเพิ่มพันธมิตรใหม่เข้ามาอีกด้วย” นายสุรพงษ์กล่าว

 

ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เริ่มมีความผิดปกติของการดำเนินการในขั้นตอนที่อยู่ระหว่างการรอยื่นข้อเสนอการร่วมลงทุนในโครงการนี้ ปรากฎว่า มีบริษัทเอกชนที่ร่วมซื้อซองมีหนังสือไปถึง ผู้ว่าการ รฟม. และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอให้พิจารณาเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ชนะการประมูล โดยอ้างเหตุผล ถึงหลักเกณฑ์ และความเสี่ยงสูง ของการขุดเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งผ่านพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน จะต้องใช้เทคนิคการออกแบบทางวิศวกรรมและวิธีการก่อสร้างขั้นสูงเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนในด้านต่างๆ ต่อมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือก ซึ่งล้มล้างสิ่งที่หน่วยงานของรัฐทำมาหลายปี

 

“ที่ต้องฟ้องรฟม. เพราะทำไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าเกณฑ์ใหม่ดีจริงทำไมไม่ทำตั้งแต่ทีแรก เรื่องนี้ใครสั่งใครได้ประโยชน์ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการแบ่งเค้กให้ลงตัวอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน และมองว่าถ้ายังยืดเยื้อแบบนี้ภายในปี 2564 ก็คงไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นแน่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีหลักฐานเด็ดที่ยังไม่ขอเปิดเผยที่จะนำไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในคดีทุจริตต่อไป” พ.ต.อ.สุชาติกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง